23.วิธีจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษ

 


 วิธีจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษ
   สวัสดีครับนักเรียนและผู้ศึกษาทั้งหลายบัดนี้เราก็มาถึงบทสุดท้ายแล้วข้าพเจ้าจะนำเอาวิธีจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษมาเสนอ การเรียนภาษาอังกฤษ คำศัพท์นับว่าเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญมากที่สุดในการเรียน ถ้าท่านไม่รู้คำศัพท์แล้วท่านจะไปเรียนไวยกรณ์อังกฤษส่วนอื่น เช่น  part of speech คือส่วนแห่งคำพูด    sentence คือประโยค     tense คือกาล  ไม่ได้เลยเพราะ ส่วนแห่งคำพูด, ประโยค, และกาล ล้วนแล้วแต่เกิดมาจากคำศัพท์ทั้งสิ้น  ถ้าท่านจำคำศัพท์และความหมายของมันไม่ได้ท่านก็จะอ่าน, พูด, ฟัง, และเขียน ภาษาอังกฤษไม่ได้เลย  คนพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ก็เพราะเขาจำคำศัพท์ไม่ได้  เวลาไปเจอฝรั่งๆถามก็ไม่รู้เรื่องเพราะไม่รู้ว่าเขาถามอะไร  ถ้าฟังรู้เรื่องแต่ถ้าจำคำศัพท์ไม่ได้ก็ไม่รู้ว่าจะตอบเขาอย่างไร  เพราะฉะนั้นข้าพเจ้าจึงพูดได้เต็มปากว่า "คำศัพท์เป็นหัวใจที่สำคัญในการเรียนภาษาอังกฤษ"  คนไทยไม่เก่งภาษาอังกฤษเพราะคนไทยจำคำศัพท์ได้น้อยหรือไม่ได้เลย ข้าพเจ้ามีเพื่อนคนหนึ่งเรียนจบปริญญาตรีแต่เขากลัวภาษาอังกฤษมากคือตำราที่เป็นภาษาอังกฤษเขาจะไม่ดูและอ่านมันเลย  ข้าพเจ้าเคยถามเขาเกี่ยวกับพยัญชนะในภาษาอังกฤษ 26 ตัว ว่ามีอะไรบ้างเขาก็ตอบไม่ได้ นี้แหละคือจุดอ่อนของคนไทย  ข้าพเจ้าเคยสังเกตเกี่ยวกับตนเองถ้าตอนไหนเราจำคำศัพท์ได้มากๆเมื่อเจอฝรั่งแล้วเราก็ไม่รู้สึกกลัวฝรั่ง เพราะเรามีความกล้าและมีความมั่นใจในการที่จะพูดกับฝรั่ง นี้แหละครับถ้าเรามีความรู้จะทำให้เราเกิดความกล้าหาญขึ้นมาทันที  ต่อไปนี้ข้าพเจ้าจะได้นำเอาเทคนิคการจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษมาเสนอแก่ท่านทั้งหลายดังนี้ 
   -วิธีจำคำศัพท์แบ่งออกเป็น  2  ชนิด คือ:-
        1.วิธีจำคำศัพท์แบบท่องจำ
        2.วิธีจำคำศัพท์แบบไม่ท่องจำ

    วิธีจำคำศัพท์แบบท่องจำ      
   -วิธีจำคำศัพท์แบบท่องจำที่มีประสิทธิภาพให้เตรียมเครืองอุปกรณ์ดังนี้ คือ:-
         1.สมุด
         2.ปากกา 
         3.หูฟังหรือลำโพง
         4.เว็บไซต์เกี่ยวกับคำศัพท์และการออกเสียง       เช่น:-
                   เว็บไซต์คำศัพท์ 1000 คำ
     http://www.englishbychris.com/portfolio-items/1000/
     http://www.e4thai.com/e4e/index.php?option=com_content&
                   เว็บไซต์คำศัพท์ 2000 คำ
     http://cambridgedict.blogspot.com/2012/01/2000.html
                   เว็บไซต์คำศัพท์ 3000 คำ
    http://www.oxfordlearnersdictionaries.com/wordlist/english/oxford3000/
                   เว็บไซต์คำศัพท์ 5000 คำ
   https://www.youtube.com/watch?v=INL8imW1UKQ
                   เว็บไซต์คำศัพท์
   http://www.e4thai.com/e4e/index.php
   https://blog.eduzones.com/moobo/123140
   http://www.e4thai.com/e4e/images/pdf /1000_English_words.pdf

   http://www.e4thai.com/e4e/

   http://xn--12cl9ca5a0ai1ad0bea0clb11a0e.com/%E0%B8%84%E0%B8%B3%E0%B8%A8%E0%B8%B1%E0%B8%9E%E0%B8%97%E0%B9%8C%E0%B8%A0%E0%B8

      เว็บไซต์แปลคำศัพท์และการออกเสียง
  https://translate.google.co.th/
   ผมขอแนะนำให้ทุุกคนรู้จักกับ'Oxford 3000 key words' ครับ (ตามลิ้งค์ที่ผมให้ไป) คือ คำศัพท์ 3000 คำที่ใช้บ่อยที่สุดในภาษาอังกฤษหรือพูดง่ายๆก็คือคำศัพท์ 70% ที่ใช้อยู่ทุกวันก็มาจาก 3000 คำนี้แหละครับ หลายคนอาจบอกว่า 'เยอะจังตั้ง 3000 แหนะ' เยอะ แต่ทุกคำเราจะต้องนำเอาไปใช้อย่างแน่นอนครับ สู้ไว้ครับเรามาเริ่มกันเลยครับอันดับแรกเข้าไปที่ ลิ้งค์แรกที่ผมให้ เลื่อนมาข้างล่างสักนิดหนึ่ง เราจะเจอคำศัพท์เรียงกันยาวตามลำดับตัวอักษร(A-Z)ครับ ไม่ต้องกดเข้าไปนะครับ เพราะเราสนใจแค่คำศัพท์และวิธีออกเสียงพอ ถ้ากดเข้าไปเขาจะอธิบายความหมายไว้ในภาษาอังกฤษ หรือพูดง่ายๆคือแปลอังกฤษเป็นอังกฤษอีกทีครับ แต่ถ้าใครจะเข้าไปดูก็ไม่เป็นไรนะครับ ที่นี้วิธีท่องคำศัพท์ของเราก็คือท่องอักษรละ 2 คำต่อวัน เอ๊ะ หลายคนอาจจะงง อักษรละ 2 คำต่อวันยังไงหว่า ก็คือวันนี้ให้เราท่องคำศัพท์หมวด A-Z ให้ได้อย่างละสองคำก็จะตกวันละ 52 คำครับ อาจจะฟังดูเยอะนะ วันละตั้ง 52 ครับ แต่ที่จริงผมว่ามันก็ไม่เยอะเท่าไหร่นะ แบ่งเวลาท่องออกเป็น 3 ช่วง ช่วงเช้าท่อง  15 คำ   ช่วงเที่ยงท่อง 15 คำ   ช่วงเย็นท่อง 15 คำ   ที่เหลือให้ท่องก่อนนอน
  ถ้าใครฝืนตัวเองให้ทำจนเป็นนิสัยได้นะ ผมบอกเลยว่าคุณจะพัฒนาไปเยอะมากครับ แต่ถ้าใครไม่ไหวจริงๆก็ให้ลดมาเหลือ แค่อักษรละ 1 คำ ต่อวันก็ได้ครับแล้วให้เราจดคำศัพท์ที่เราท่องแต่ละวันลงในสมุดนะครับจดแค่ภาษาอังกฤษนะครับ คำแปลภาษาไทยไม่ต้องจดก็อย่างที่เคยอธิบายไปในบทความที่แล้วครับ ลองไปหาอ่านดูตอนที่ 1  การที่เราไม่จดภาษาไทยไปเนี่ย จะเหมือนเป็นการบังคับให้เราใช้สมองเพื่อจดจำและเมื่อผ่านไป 2-3 วัน เรากลับมาอ่านจะได้ให้สมองใช้เวลานึกคำศัพท์ที่เราแปลความหมายไม่ได้ วิธีนี้แหละครับจะทำให้เราจำศัพท์ได้เร็วมากแล้วไม่ใช้แค่จดอย่างเดียวนะครับ ให้ฟังการออกเสียงด้วยจะเห็นว่ามีปุ่มให้กดอยู่ 2 ปุ่ม สีน้ำเงิน กับสีแดง ปุ่ม 2 ปุ่มนี้คือเสียงเจ้าของภาษาพูดคำศัพท์ครับ สีน้ำเงิน คือ สำเนียงอังกฤษ (ฺBritish English)
สีแดง คือ สำเนียงอเมริกัน (American English)
ให้เราเลือกฝึกพูดตาม 1 สำเนียงนะครับ ตามใจชอบเลย ให้ลองอัดเสียงดูว่า เวลาเราพูดตามสำเนียงไหน เสียงเราเมื่อฟังดูแล้วมันเหมือนสำเนียงไหนมาก หากเสียงเราไปทางสำเนียงอังกฤษ ก็ให้ฝึกพูดตามสำเนียงอังกฤษนะครับ แต่ถ้าไปทางสำเนียงอเมริกาก็ฝึกตามสำเนียงอเมริกานั้น ต้องฝึกพูดตามและฟังการออกเสียงด้วยนะครับ เพื่อครั้งหน้าเราได้ยินหรือได้ใช้ จะได้รู้ว่าต้องออกเสียงยังไงให้ฝรั่งเข้าใจ  เออะ! อย่าลืมแปลความหมายคำศัพท์ด้วยนะครับ ไม่ใช่ว่าพูดได้สำเนียงเป๊ะ แต่ไม่รู้ความหมายก็ไม่ไหวนะครับ                               
                 วิธีจำคำศัพท์แบบไม่ท่องจำ 
  วิธีจำคำศัพท์แบบไม่ท่องจำ  วิธีนี้เป็นวิธีที่ข้าพเจ้าผู้เขียนตำราเล่มนี้คิดค้นขึ้นมาเพื่อการจดจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษแบบไม่ต้องท่องจำเมื่อตอนวัยเด็กข้าพเจ้าเรียนภาษาอังกฤษในชั้น ม.5 ข้าพเจ้ามีเพื่อนคนหนึ่งชื่อว่า "ทองสุข"  เพื่อนคนนี้ในวิชาภาษาอังกฤษรู้สึกว่าเขาจะได้คะแนนมากกว่าทุกๆคนที่อยู่ในชั้น ม.5 ข้าพเจ้าถามเขาว่าทำไมคุณถึงจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษได้มากกว่าครู  เขาบอกว่าเขาซื้อดิคชั่นนะรี่มาเล่มหนึ่งแล้วก็ฉีกดิคชั่นนะรี่นั้นวันละ 1 แผ่น ดิคชั่นนะรี่ที่ฉีกออกมานั้นเขาจะท่องคำศัพท์ที่มีในแผ่นนั้นให้ได้หมด เขาใช้เวลาท่องอยู่ 1 ปี เขาก็จำได้หมด  เพราะฉะนั้นเขาจึงจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษได้มากกว่าครู  พอเรียนจบ ม.6 ต่างคนก็ต่างไปตามเส้นทางของตนเอง  อีก 5 ปี  ต่อมาข้าพเจ้าได้พบเขาที่วัดพระธาตุพนม ข้าพเจ้าเลยถามเขาว่าคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่จำได้ในสมัยเรียน ม.5 -ม.6 นั้นตอนนี้ยังจำได้เหมือนเดิมหรือเปล่า  เขาบอกว่ามันเข้ากลีบเมฆไปหมดแล้วคือลืมไปหมดแล้วเหลือบ้างนิดหน่อยตั้งแต่เรียนจบแล้วก็ไม่ได้ทวบทวนมันก็เลยลืมหมดข้าพเจ้าจึงมาได้ข้อสรูปว่าการเรียนคำศัพท์โดยวิธีการท่องจำนั้นเป็นวิธีที่ไม่ถูกต้อง  เพราะเหตุนี้จึงทำให้ข้าพเจ้าคิดหาวิธีจำคำศัพท์แบบไม่ต้องท่องจำ  เมื่อข้าพเจ้าได้มาเรียนต่อที่อินเตอร์เนทยูนิเวอร์ซิตี้ข้าพเจ้าคิดค้นวิธีนี้ขึ้นมาได้  วิธีการมีดังนี้
   หลักการจำคำศัพท์แบบไม่ต้องท่องจำมี 10 ข้อ   
    1.ต้องจำพยัญชนะ 26 ตัว และสระ 5 ตัวให้ได้
    2.ให้หาศัพท์ที่เกี่ยวกับตัวเราและสิ่งใกล้ตัวเราขึ้นมาทีละคำ เช่น เรามองเห็นอากาศที่ว่างเปล่ารอบๆตัวเรา คำว่า "อากาศ"  ในภาษาอังกฤษเรียกว่า "air"   เมื่อได้คำศัพท์คือ air โปรดสังเกตและจำไว้ให้ดีว่าคำว่า" air" นั้นตัว a อยู่หน้าตัว i  ให้จำแค่นี้ท่านก็จะเขียนและจดจำคำศัพท์ได้ถูกต้องไปตลอดชีวิตโดยไมต้องท่องจำเลย  คำศัพท์คำเดียวคือ air  เราสามารถทำให้มันขยายคำศัพท์ออกมาให้เราอีกดังนี้  คือ:-

            เพิ่มคำด้านหน้า

   เพิ่มคำด้านหน้าคือการนำเอาตัวอักษรมาเติมลงตรงหน้าคำว่า " air"  คือ:-

    1.ถ้านำเอา ch มาเติมที่หน้า air  ก็จะได้คำศัพท์ใหม่คือ "chair"   แชร์  แปลว่า "เก้าอี้"
    2.ถ้านำเอา h  มาเติมที่หน้า  air  ก็จะกลายเป็นคำศัพท์ใหม่คือ "hair"   แฮร์  แปลว่า "ผม"
    3.ถ้านำเอา f   มาเติมที่หน้า  air  ก็จะกลายเป็นคำศัพท์ใหม่คือ fair   แฟร์  แปลว่า "ยุติธรรม, ถูกต้อง, ซื่อสัตย์"
    4.ถ้านำเอา  L   มาเติมที่หน้า  air  ก็จะกลายเป็นคำศัพท์ใหม่คือ"Lair"    แลร์    แปลว่า "ที่ซ่อน, รังสัตว์, ถ้ำสัตว์" 
    5.ถ้านำเอา p    มาเติมที่หน้า air  ก็จะกลายเป็นคำศัพท์ใหม่คือ "pair"     แพร์     แปลว่า "คู่"    
    6.ถ้านำเอา air  ไปเติมที่หน้า  port (พอร์ท แปลว่าท่าเรือน)  ก็จะกลายเป็นคำศัพท์ใหม่คือ  airport   แอร์พอร์ท  แปลว่า "สนามบิน, ท่าอากาศยาน"

    7.ถ้านำเอา air  ไปเติมที่หน้า play (พเล แปลว่า เล่น)  ก็จะกลายเป็นคำศัพท์ใหม่คือ airplay   แอร์พเล   แปลว่า "ออกอากาศ" 

    8.ถ้านำเอา air  ไปเติมที่หน้า  bus  (bus แปลว่า รถบัส)  ก็จะกลายเป็นคำศัพท์ใหม่คือ  airbus   แอร์บัส  แปลว่า "รถปรับอากาศ"

    9.ถ้านำเอา air  ไปเติมที่หน้า plane (เพลน แปลว่า เครื่องบิน)  ก็จะกลายเป็นคำศัพท์ใหม่คือ  airplane  แอร์เพลน แปลว่า "เครื่องบิน" 
   10.ถ้านำเอา air  ไปเติมที่หน้า soft (ซอฟท์ แปลว่า อ่อนนุ่ม) ก็จะกลายเป็นคำศัพท์ใหม่คือ  airsoft    =ปืนอัดลม
   11.ถ้านำเอา air  ไปเติมที่หน้า ship (ชิพ แปลว่า เรือ)  ก็จะกลายเป็นคำศัพท์ใหม่คือ

airship  แอร์ชิพ   แปลว่า "เรือนบิน, เรือเหาะ"  

    12.ถ้านำเอา air  ไปเติมที่หน้า field (ฟีลดฺ แปลว่า สนาม)  ก็จะกลายเป็นคำศัพท์ใหม่คือ  airfield  แอร์ฟีลด์   แปลว่า "สนามบิน"       

    13.ถ้านำเอา air  ไปเติมที่หน้า drom (โดรม แปลว่า กระโจม ) ก็จะกลายเป็นคำศัพท์ใหม่คือ airdrom  แอร์โดรม  แปลว่า "สนามบิน"

       เพิ่มคำด้านหลัง

    -ถ้านำเอา air  ไปเติมด้านหลัง  rep (เรพ แปลว่า ตัวแทน)  ก็จะกลายเป็นคำศัพท์ใหม่คือ repair (รีแพร์)  แปลว่า "ซ่อมแซม" 
   ตรงนี้แสดงให้เห็นว่าคำศัพท์ทั้ง 14 คำเหล่านี้ล้วนเกิดมาจาก  air  ทั้งสิ้น ถ้าท่านเขียน air  ถูกท่านก็จะเขียนคำเหล่านี้ได้ถูกต้องโดยไม่ต้องท่องจำ คำศัพท์ทั้งหลายจะเพิ่มขึ้นโดยวิธีเช่นนี้  ขอให้ท่านผู้ศึกษาจงจดจำวิธีที่ข้าพเจ้าแสดงให้ดูเป็นตัวอย่าง เมื่อได้คำศัพท์อะไรก็ต้องเอาไปหาวิธีเพิ่มคำศัพท์ให้ได้ตามวิธีนี้ คำศัพท์ก็จะเพิ่มขึ้นได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องท่องจำ  เมื่อท่านได้คำศัพท์เพิ่มขึ้นแล้วจงเขียนคำศัพท์ทั้งหลายเหล่านั้นไว้ดูเพื่อทบทวนอีกชั้นหนึ่ง  เช่น:-

    คำที่เกิดจาก air

  -chair

  -hair

  -pair

  -fair

  -lair

  -airport

  -airplane

  -airplay

  -airbus

  -airship

  -airsoft

  -airfield

  -airdrom

  -repair

  เมื่อได้คำศัพท์ตามต้องการแล้วจงนำเอาคำเหล่านี้ไปสร้างให้เป็นประโยคขึ้นมา คำศัพท์คำหนึ่งจงนำเอาไปแต่งเป็นประโยคให้ได้ 10 ประโยคเป็นอย่างน้อย  ต่อไปนี้ข้าพเจ้าจะนำเอาคำศัพท์คำหนึ่งมาแต่งให้ดูเป็นตัวอย่าง ข้าพเจ้าจะนำเอา chair มาแต่งให้เป็นตัวอย่างดังนี้ คือ:-

       chair

  -Chair  is  a  furniture  for  sit.

  -A  chair  maked  from  wood  or  plastic.

  -A  chair  has  four  legs.

  -A  chair  makes  person  who  sits  on  it  happy.

  -A  chair  that  makes  with  the  wood  has  expensive  price. 

  Question:Did  chair  make  with  wood?

  Answer:Yes, it  maked  with  wood.

  Negative:No, it  didn't  make  with  wood.

                   It  maked  with  plastic.

  Question:What  did  chair  use  to  make? 

  Answer:A  chair  uses  to  sit  in  work.

        รวมประโยคทั้งหมด

  Chair  is  afurniture  for  sit. A  chair  maked  from  wood  or  plastic. A  chair  has  four  legs. A  chair  makes  person  who  site  on it  happy. A  chair  that  maked  with  wood  has  expensive  price. What  does  chair  make  with  wood?  Yes, it  maked  with  wood.  No, it  didn't  make  with  wood. It  maked  with  plastic. A  chair  uses  to  sit  in  the  work.

  เมื่อผู้ศึกษาแต่งประโยคได้ 10 ประโยคแล้วก็ให้นำเอาไปอ่านออกเสียงให้ดังๆ ให้อ่านวันละ 10 จบ  10  วัน  ต่อจากนั้นให้ก็อปปี้เอาหนึ่งประโยคไปวางลงที่ช่องแปลภาษาของกูเกิล ให้ทำทีละประโยคจนกว่าจะครบ 10 ประโยค แต่ละครั้งเมื่อวางลงไปแล้วก็ให้คลิกที่รูปลำโพงเพื่อฟังสำเนียงการอ่านของฝรั่งเพื่อจะทำให้เราเกิดควาคุ้นเคยกับสำเนียงการอ่านของฝรั่ง  เสร็จแล้วก็ให้เก็บหรือบึนทึกข้อมูลที่เราเขียนเอาไว้ในที่ปลอดภัยจะเรียกใช้เวลาไหนก็ได้

     วิธีเพิ่มคำศัพท์ใหม่จาก ear

  -บัดนี้ข้าพเจ้าจะนำเอาคำว่า "ear"  ที่แปลว่า "หู"  มาแสดงในการเพิ่มคำศัพท์ใหม่ให้ผู้ศึกษาดูเป็นตัวอย่างอีกตัวหนึ่ง  ขอให้ผู้ศึกษาจำแต่เพียงว่าคำว่า ear  อักษร e  อยู่หน้าอักษร a  จำแค่นี้พอ  ear คำเดียวเมื่อนำเอาไปประสมกับอักษรตัวอื่นก็จะเกิดเป็นคำศัพท์ใหม่ขึ้นมา  เช่น:-

        เพิ่มด้านหน้า

  -ถ้าเอา d  มาเติมข้างหน้า ear  ก็จะได้คำศัพท์ใหม่คือ  dear   เดียร์   แปลว่า "ที่รัก, แฟน"

  -fear     มาจาก     f + ear       =เฟียร์      แปลว่า "กลัว"

  -gear    มาจาก     g + ear      =เกียร์       แปลว่า "เกียร์รถ"

  -hear    มาจาก     h + ear      =เฮียร์       แปลว่า "ได้ยิน, ฟัง"

  -near    มาจาก     n + ear      =เนียร์       แปลว่า "ใกล้"

  -pear    มาจาก     p + ear      =แพร์       แปลว่า "ลูกแพร์, ลูกสาลี่"

  -rear     มาจาก     r + ear      =เรียร์       แปลว่า "ด้านหลัง, เบื้องหลัง, ท้าย"

  -sear    มาจาก      s + ear      =เซียร์      แปลว่า "เหี่ยว, แห้ง, โรยรา"

  -tear    มาจาก      t + ear       =แทร์       แปลว่า "ฉีก, ขาด, ดึง, รื้อออก, พราก" 

  -wear   มาจาก      w + ear     =แวร์        แปลว่า "สวมใส"

  -year    มาจาก      y + ear      =เยียร์       แปลว่า "ปี"

        เพิ่มด้านหลัง

  -earn     มาจาก      ear + n      =เอิน       แปลว่า "แสวงหา, หาได้, ได้กำไร"

  -early    มาจาก      ear + ly      =เออลี่     แปลว่า "ก่อน, แรก, ตอนต้น, เช้าตรู่"

  -earth    มาจาก      ear + th     =เอิธ     แปลว่า "โลก"

3.สังเกตการเขียนคำศัพท์ให้ถูกต้องก็จะเป็นการจำที่ดีอีกชนิดหนึ่ง     เช่น:-
    -beautiful    =สวยงาม
    -หลักในการอ่านเช่น   bea -u - ti - ful       ให้แยกออกมาอ่านอย่างนี้จะทำให้เราจำคำศัพท์นี้ได้อย่างไม่ลืมเลย
    -friend    =เพื่อน
      -อ่านเป็น   fri -end    
    -Thairath     =ไทยรัฐ
      -อ่านเป็น   Thai - rath 
    -afraid      =กลัว
      -อ่านเป็น    af - raid 
    -greensward    =สนามหญ้า
      -อ่านเป็น    green - sward
    -four (โฟร์)     =4
      -อ่านเป็น    f  -  our
    -tour (ทัวร์)   =การท่องเที่ยว
      -อ่านเป็น     t - our
    -hour (เอาเออ)   =ชั่วโมง
      -อ่านเป็น   h - our
    -their    =ของพวกเขา
      -อ่านเป็น    the - ir
    -frequency (ฟริเควนซี่)    =ความถี่
      -อ่านเป็น    fre - quen - cy
    ให้คิดหาคำศัพท์ที่มักเขียนผิดแยกอ่านแบบนี้จะทำให้เราจำคำศัพท์นั้นอย่างไม่ลืมเลย
      4.การเพิ่มคำศัพท์จากตัวเราและสิ่งที่อยู่ใกล้ตัว
                   การเพิ่มคำศัพท์จากตัวเรา
   -ตัวอย่างการเพิ่มคำศัพท์จากตัวเราโดยมีหลักในการเพิ่มดังนี้
       1.ให้นึกจากร่างกายโดยเริ่มตั้งแต่บนมาหาล่าง   เช่น:-
          -ร่างกาย          คำศัพท์ก็คือ      body (บอดี้)
          -ผม                   ,,         ,,         hair (แฮร์)
          -ศีรษะ               ,,          ,,         head (เฮด)
          -ใบหน้า             ,,          ,,         face (เฟค)
          -หู                     ,,          ,,         ear (เอีย) 
          -คิ้ว                   ,,          ,,         eyebrow (อายโบร) 
          -ตา                   ,,          ,,         eye (อาย)
          -จมูก                 ,,          ,,        nose (โนส)
          -ริมฝีปาก          ,,          ,,         labia (เลเบีย)
          -ปาก                 ,,          ,,         mouth (เมาธ์)
          -แก้ม                 ,,          ,,        cheek (ชีค)
          -คาง                 ,,           ,,        chin (ชิน)
          -คอ                   ,,          ,,         neck (เนคค์)
          -ไหล่                 ,,          ,,         shoulder (โซนเดอะ)
          -แขน                 ,,          ,,         arm (อาร์ม)
          -มือ                   ,,          ,,         hand (แฮนดฺ)
          -ฝ่ามือ               ,,          ,,         palm (พาล์ม) 
          -นิ้วมือ               ,,          ,,         finger (ฟินเกอร์)
          -ขา                   ,,          ,,         leg (เลก)
          -หัวเข่า              ,,          ,,         knee (นี)
          -แข้ง                 ,,          ,,         shin (ชิน)
          -เท้า                  ,,          ,,         foot (ฟูท)
          -นิ้วเท้า              ,,          ,,         toe (โท)
          -ฝ่าเท้า              ,,          ,,         foot sole (ฟูท โซล)
  อย่าลืมจงสังเกตดูการเขียนของคำศัพท์เหล่านี้ด้วยเวลาเขียนจดหมายหรือเรียงความจะได้ไม่เขียนผิด 
              การเพิ่มคำศัพท์จากสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวเรา
   การเพิ่มคำศัพท์จากสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวเรา  มีหลักในการเพิ่มดังนี้ให้นึกถึงสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวเราที่สุดก่อนแล้วจึงห่างออกไปเรื่อยๆ เช่นสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวที่สุดคือ:-
       -เสื้อผ้า               ภาษาอังกฤษคือ   clothes (คลอธสฺ)
       -เสื้อ                    ,,              ,,        shirts (เชิร์ทซฺ)
       -กางเกง              ,,              ,,        pants (แพนท์ซฺ)
       -กระโปร่ง            ,,              ,,        skirt (สเคิร์ท)
       -เนคไท               ,,              ,,        necktie (เนคไท)  ผ้าพันคอ                
       -ถุงมือ                 ,,              ,,        glove (กลอฟว์)
       -สร้อยคอ             ,,             ,,        necklace (เนคเลซ)
       -แหวน                 ,,             ,,        ring (ริง)
       -ถุงเท้า                ,,             ,,         socks (ซอคซฺ)
       -นาฬิกาข้อมือ      ,,             ,,        watch (วอทชฺ)
       -นาฬิกาแขวน      ,,             ,,        clock (คลอค)
       -โทรศัพท์มือถือ    ,,             ,,       cellphone, mobile  เซลโฟน,โมบาย
       -โทรศัพท์บ้าน      ,,             ,,       home phone (โฮม โฟน)
       -โน๊ตบุ๊ค               ,,             ,,       notebook (โน๊ทบุค)         
       -คอมพิวเตอร์       ,,             ,,       computer (คอมพิวเตอร์)                   
       -โทรทัศน์             ,,             ,,       TV, television (ทีวี,เทลลิวิซั่น)
       -วิทยุ                    ,,            ,,        radio (เรดิโอ)
       -โต๊ะ                     ,,            ,,       table, desk  (เทเบิล,เดสคฺ)              
       -เตียง                   ,,            ,,       bed (เบด)
       -ตู้                        ,,            ,,       cabinet (แคบิเนท)     
   นี้คือตัวอย่างที่นำมาแสดงให้ดูเท่านั้น และยังมีอีกเป็นจำนวนมากขอให้ผู้ศึกษานึกขึ้นมาลองดูเมื่อได้คำที่เป็นภาษาไทยแล้ว ต่อไปให้ค้นหาคำศัพท์ที่เป็นภาษาอังกฤษเราก็จะได้คำศัพท์เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ 
     5.การนึกหาคำศัพท์ที่อยู่ไกลตัวให้นึกหาคำที่เป็นภาษาไทยก่อนและจึงค้นหาคำที่เป็นภาษาอังกฤษของมัน       เช่น:-
         -ท้องฟ้า                   ภาษาอังกฤษคือ     sky (สะไค)
         -อากาศ                       ,,            ,,         air (แอร์)
         -เมฆ                            ,,            ,,        clouds (เคลาดซฺ)
         -หมอก                         ,,            ,,        fog (ฟอก)
         -ลมและลมพายุ             ,,            ,,        storm, gale (สทรอม,เกล)
         -ดวงอาทิตย์                 ,,            ,,        sun (ซัน)
         -ดวงจันทร์                   ,,            ,,        moon (มูน) 
         -ดวงดาว                      ,,            ,,        star (สะทาร์)
         -นก                              ,,            ,,        bird (เบิร์ด)
         -เครื่องบิน                    ,,            ,,        plane (แพลน)
         -สนามบิน                     ,,            ,,        airport (แอร์พอร์ท)
         -ท่าอากาศยาน             ,,            ,,        airport
         -ถนน                           ,,            ,,        road (โรด)  
         -รถยนต์                       ,,            ,,        car (คาร์)
         -รถจักรยาน                 ,,            ,,        bicycle (ไบซิเคิล)
         -รถจักรยานยนต์, รถมอเตอร์ไซต์   motorcycle (มอเทอะไซเคิล)                  
      6.ใช้วิธีเปรียบเทียบคำศัพท์แล้วจงสังเกตดูข้อแตกต่างของมัน       เช่น:-
          -mouth (เมาธ์)    แปลว่า "ปาก"
          -mouse (เมาซฺ)    แปลว่า "หนู"
          -mountain (เมาเทน)    แปลว่า "ภูเขา"
          -house (เฮาซฺ)   แปลว่า "บ้าน"
          -household  (เฮาซฺ'โฮลดฺ)    แปลว่า " สมาชิกในครอบครัว,ครัวเรือน"
          -cousin (เคาซิน)    แปลว่า "ลูกพี่ลูกน้อง"
          -hour (เอาเออร์)    แปลว่า "ชั่วโมง"
          คำสํพท์ทั้ง 7 คำเหล่านี้เกิดขึ้นมาจาก 
our   เป็นคำสรรพนาม  บุรุษที่ 2 เอาไปเขียนให้เกิดคำศัพท์ขึ้นมาใหม่ได้อีกดังนี้

             -hour (เอาเออ)    แปลว่า "ชั่วโมง"     
             -four (โฟร์)    แปลว่า "4"     
             -tour (ทัวร์)    แปลว่า "การท่องเที่ยว"     
             -course (คลอร์ส)    แปลว่า "หลักสูตร"
             -your (ยัวร์)    แปลว่า "ของคุณ" 

             -gourmand (กัวร์มานดฺ)n.   =นักกิน, นักดื่ม

             -dour (ดาวเออร์)adj.   =แข็งแรง, บึกบึน, ดื้อดึง
          นี้คือวิธีเพิ่มคำศัพท์ขึ้นมาใหม่โดยการนำเอาคำศัพท์คำเดียวเขียนขึ้นมาได้อีกหลายคำขอให้ผู้ศึกษาทั้งหลายโปรดสังเกตดูให้ดีตามวิธีที่ข้าพเจ้าแสดงให้ดูนี้  เมื่อท่านทำได้ดังนี้คำศัพท์ใหม่ๆก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆโดยไม่ต้องท่องจำ    
     7.ให้อ่านคำศัพท์ในเว็บไซต์วันละ 2  ครั้งอ่านไปสังเกตไปอ่านช้าๆอย่าไปเร็ว ถ้าคำไหนจำยากก็อ่านดูหลายๆเที่ยว  จงเปิดเว็บไซต์ข้างล่างนี้ขึ้นมาอ่านและฟังสำเนียงการออกเสียงไปด้วย  ให้เปิดขึ้นมาอ่านดูทุกวันอย่าได้ขาดคำศัพท์จะได้ซึมซับเข้าไปในสมองของท่านเอง
          http://cambridgedict.blogspot.com/2012/01/2000.html 
           http://www.e4thai.com/e4e/index.php?option=com_content&view=article&
             http://xn--12cl9ca5a0ai1ad0bea0clb11a0e.com/%E0%B8%84%E0%B8%B3%E0%B8%A8%E0
           http://www.unigang.com/Article/1045
        คำศัพท์จาก Youtube
   https://www.youtube.com/watch?v=NMZVfaW-dTc
   https://www.youtube.com/watch?v=RtXzhQLr8_w

    8.วิธีอ่านคำศัพท์ให้ได้คำศัพท์เพิ่ม  คือ:-

       8.1 ea  อ่านออกเสียงเป็น เอ   เช่น:-

          -read   อ่านออกเสียงเป็น  เรด   แปลว่า "อ่าน"

          -head   อ่านออกเสียงเป็น  เฮด   แปลว่า "หัว, ศีรษะ"

          -bread  อ่านออกเสียงเป็น  เบรด   แปลว่า "ขนมปัง"

          -break  อ่านออกเสียงเป็น  เบร็ค   แปลว่า "แตก, หัก"

          -breakfast  อ่านออกเสียงเป็น   เบร็คฟาสทฺ  แปลว่า "อาหารเช้า"

          -breast  อ่านออกเสียงเป็น  เบรสทฺ   แปลว่า "เต้านม"

          -breath  อ่านออกเสียงเป็น  เบร็ธ   แปลว่า "หายใจ"

       8.2 ea  อ่านออกเสียงเป็น  อี   เช่น:-

          -leam  อ่านออกเสียงเป็น  ลีม   แปลว่า "แหลม"

          -dream  อ่านออกเสียงเป็น  ดรีม   แปลว่า "ความฝัน" 

          -beat  อ่านออกเสียงเป็น  บีท   แปลว่า "ตี"

       8.3 ea   อ่านออกเสียงเป็น  แอ   ก็ได้  เช่น:-

           -bear  อ่านออกเสียงเป็น  แบร์   ถ้าเป็นนามแปลว่า "หมี"  ถ้าเป็นกิริยาแปลว่า "แบก, ห้าม"

        9.วิธีจำคำศัพท์แบบแยกคำศัพท์ออกจากกัน   เช่น:-

            -newspaper    คำนี้มาจากคำ 2 คำบวกกัน

               -news (นิวซฺ)n.   =ข่าว

               -paper (เพเพอร์)n.   =กระดาษ

               -newspaper   มาจากคำนามบวกคำนามแปลว่า "กระดาษข่าว, หนังสือพิมพ์"

        -northeasturn    คำนี้มาจากคำ 2 คำรวมกัน  คือ:-

           -north (นอร์ธ)n.   =เหนือ, ทิศเหนือ

           -eastern (อีสเทิร์น)adj.   =ทางตะวันออก

           -northeastern  มาจากคำนาม บวก คำคุณศัพท์   แปลว่า "ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ" 

        -breakfast   คำนี้มาจากคำ 2 คำบวกกัน  คือ:-

           1.break (เบรค)v.   =แตก, หัก, ทำลาย

           2.fast (ฟาสทฺ)adj.   =ด่วน, รวดเร็ว

             -breakfast   มาจากคำกิริยา บวก คำคุณศัพท์กลายเป็นคำนาม  แปลว่า "อาหารเช้า" 

         -firework   คำนี้มาจากคำ 2 คำ บวกกัน  คือ:-

            -fire (ไฟร์)ืn.   =ไฟ    v.   =เผา

            -work (เวิร์ค)n.   =งาน   v.   =ทำงาน

           -firework   มาจากคำนาม 2 คำบวกกันกลายเป็นคำศัพท์ใหม่คือ   firework   แปลว่า "ดอกไม้ไฟ หรือ พลุ"

         -workshop   คำนี้มาจากคำ 2 คำ บวกกัน  คือ:-

            1.work (เวิร์ค)n., v.   =งาน   ทำงาน

            2.shop (ช็อพ)n., v.   =ร้านขายของ, ไปจ่ายตลาด

              -2 คำรวมกันจึงกลายเป็นคำศัพท์ใหม่  คือ  workshop  แปลว่า "โรงงาน, ร้านขายของ"  

        -millionaire (มิลเลียนแนร์, มิลยะแน)n.   =เศรษฐี 

           -วิธีจำให้แยกคำศัพท์ออกเป็น 2 คำ  คือ:-

             1.million (มิลเลียน)n.   =ล้าน, หนึ่งล้าน

                -million    มาจาก   mil  +  lion

             2.naire (แนร์)n.   =มากล้น

                -niare   มาจาก   nia  +  re

        -euromillion (ยูโรมิลเลียน)n.   =หนึ่งล้านยูโร

          -วิธีจำให้แยกคำศัพท์ออกเป็น 2 คำ  คือ:-

             1.Euro (ยูโร)n.   =เงินยูโร

             2.million (มิลเลียน)n.   =หนึ่งล้าน 

        -wallet (วอลเลท)n.   =กระเป๋าสตางค์, ย่าม

   10.วิธีเปลี่ยนคำใหม่       เช่น:-

        -one      ศัพท์เดิมคือ  on   ถ้าเติมตัว   e   เข้ามาด้านหลังก็จะกลายเป็น   one (วัน)  แปลว่า "หนึ่ง"

        -two (ทู)   แปลว่า "สอง"    ถ้าเอาตัว   w    มาไว้ด้านหลังแล้วเติมตัว   n   ลงไปข้างหลังก็จะกลายเป็น   town (ทาวน์)   แปลว่า "เมือง"

        -three (ธรี)    แปลว่า "สาม"     ถ้าเอาตัว    h   ออกก็จะกลายเป็น    tree (ทรี)   แปลว่า "ต้นไม้"

        -four (โฟร์)    แปลว่า "สี่"     ถ้าเอาตัว   f    ออกก็จะกลายเป็น    our (อาวเออ)   แปลว่า "ของพวกเรา"       ถ้าเพิ่มตัว   t    เข้าไปข้างหน้า   our   ก็จะกลายเป็น   tour (ทัวร์)   แปลว่า "ท่องเที่ยว"     ถ้าเพิ่มตัว   s    เข้าไปข้างหน้า   our   ก็จะกลายเป็น   sour (ซาวเออ)   แปลว่า "เปรี้ยว หรือ ส้ม"

       -five (ฟาย)    แปลว่า "ห้า"      ถ้าเอาตัว  f   ออกเติมตัว  g   เข้าไปแทนที่ก็จะกลายเป็น   give (กิ๊ฟว์)    แปลว่า "ให้"      ถ้าเติมตัว  l   เข้าไปแทนที่ก็จะกลายเป็น   live (ลีฟว์)    แปลว่า "อยู่, อาศัย"  

       -six (ซิคซ์)    แปลว่า "หก"    ถ้าเอาตัว  s   ออกเติมตัว   f   เข้าไปข้างหน้าก็จะกลายเป็น   fix (ฟิคซ์)   แปลว่า "แก้ไข, ซ่อมแซม"

       -seven (เซเวน)    แปลว่า "เจ็ด"      ถ้าเอาตัว   s   ออกก็จะกลายเป็น   even (อีเวน)    แปลว่า "แม้, แม้แต่"      แต่ถ้าเพิ่มตัว   t   เข้ามาทางด้านหลังก็จะกลายเป็น   event (อีเวนทฺ)    แปลว่า "เหตุการณ์"

       -eight (เอท)    แปลว่า "แปด"

         -ถ้าเพิ่ม  een   เข้ามาข้างหลังก็จะกลายเป็น   eighteen (เอททีน)   แปลว่า "สิบแปด"

         -ถ้าเพิ่มตัว   y   เข้ามาทางด้านหลังก็จะกลายเป็น   eighty (เอททิ)    แปลว่า "แปดสิบ"

         -ถ้าเพิ่มตัว   h   เข้ามาทางด้านหลังก็จะกลายเป็น   eighth (เอทธฺ)    แปลว่า "ที่แปด"

     -nine (ไนน์)    แปลว่า "เก้า"

        -ถ้าเพิ่ม  teen   เข้ามาข้างหลังก็จะกลายเป็น   nineteen (ไนน์ทีน)   แปลว่า "สิบเก้า"

         -ถ้าเพิ่มตัว   ty   เข้ามาทางด้านหลังก็จะกลายเป็น   ninety (ไนน์ที่)   แปลว่า "เก้าสิบ"

         -ถ้าเพิ่ม   teenth   เข้ามาทางด้านหลังก็จะกลายเป็น   nineteenth (ไนน์ทีนธฺ)   แปลว่า "ที่สิบเก้า"

     -ten (เทน)   แปลว่า "สิบ"

         -ถ้าเพิ่ม   th      เข้ามาข้างหลังก็จะกลายเป็น    tenth (เทนธฺ)   แปลว่า "ที่สิบ"

         -ถ้าเพิ่ม   der   เข้ามาข้างหลังก็จะกลายเป็น   tender (เทนเดอะ)v.   แปลว่า "ประกวดราคา" 

         -ถ้าเพิ่ม   d    เข้ามาข้างหลังก็จะกลายเป็น   tend (เทนดฺ)v.  แปลว่า "มีแนวโน้ม"

         -ถ้าเพิ่ม   sion   เข้ามาข้างหลังก็จะกลายเป็น   tension (เทนซั่น)   แปลว่า "ความตึงเครียด"

         -ถ้าเพิ่มตัว   t    เข้ามาทางด้านหลังก็จะกลายเป็น   tent (เท็นทฺ)    แปลว่า "เต็นท์, โจม,

   -วิธีจำคำศัพท์ 10 วิธี ตามที่ข้าพเจ้าแสดงให้ผู้ศึกษาทั้งหลายได้ดูนี้เป็นวิธีเพิ่มคำศัพท์ให้บังเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องท่องจำขอให้ผู้ศึกษาทั้งหลายจงจำวิธีการเพิ่มคำศัพท์ 10 ข้อนี้ไว้ให้ดีและจงนำไปปรับปรุงใช้ให้เกิดเป็นประโยชน์แก่ตนเองตลอดไป

   วิธีสร้างคำศัพท์ใหม่

  -คำศัพท์คำเดียวสามารถนำไปสร้างให้เป็นคำศัพท์อีกหลายๆ คำก็ได้   เช่น:-

     -an   สร้างให้เป็นคำศัพท์ใหม่ด้วย b   เช่น:- 

        1.an    ถ้าเติม    b    เข้ามาข้างหน้าก็จะกลายเป็น   ban (แบน) 

           -ban  ถ้าเป็น  verb     แปลว่า "ห้าม, สั่งห้าม"

           -ban   ถ้าเป็น  noun    แปลว่า "การห้าม, การสั่งห้าม, การประกาศห้าม

        2.ban    ถ้าเติม   d   เข้ามาข้างหลังก็จะกลายเป็น   band (แบนดฺ)

           -band   ถ้าเป็น   verb    แปลว่า "รัด, มัด, ผูก"

           -band   ถ้าเป็น   noun   แปลว่า "วงดนตรี, แถบ, คณะ, พวก"

       3.band    ถ้าเติม    age (เอจ) ที่แปลว่า "อายุ"  เข้ามาข้างหลังก็จะกลายเป็น   bandage (แบนเดจ)   แปลว่า "ผ้าพันแผล"

         -คำศัพท์ใหม่ที่สร้างได้  คือ: ban     band     bandage

    -an   สรัางให้เป็นคำใหม่ด้วย  c      เช่น:-

       1.an    ถ้าเติม    c   เข้ามาข้างหน้าก็จะกลายเป็น   can

          -can    ถ้าเป็น   auxillary  verb   แปลว่า "สามารถ"

          -can    ถ้าเป็น  noun    แปลว่า "กระป๋อง"

       2.can    ถ้าเติม   cel   เข้ามาข้างหลังก็จะกลายเป็น   cancel (แคนเซิล)   แปลว่า "ยกเลิก"

       3.can     ถ้าเติม    vas     เข้ามาข้างหลังก็จะเป็น    canvas  (แคนแวส)   แปลว่า "ผ้าใบ"

         -คำศัพท์ใหม่ที่สร้างได้  คือ: can    cancel    canvas

 ฝึกฝนการออกเสียงคำศัพท์ภาษาอังกฤษทุกวัน

  http://www.my-english-dictionary.com/

  https://th.speaklanguages.com/%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8

  http://xn--12cl9ca5a0ai1ad0bea0clb11a0e.com/%E0%B8%97%E0

  http://thai.langhub.com/th-en/beginner-english/130-sports

   http://www.dailyenglish.in.th/

      ฝึกฝนการจำคำศัพท์จาก Easy Pace Earning

    https://www.easypacelearning.com/all-lessons/learning-english-level-1/1100-kitchen-utensils-equipment-learning-english

      เรียนจำคำศัพท์จาก Pinterest

  

  https://www.pinterest.com/pin/505810601883797654/

  https://www.pinterest.com/pin/410601691003730760/

  https://www.pinterest.com/pin/134896951317473041/

  https://www.pinterest.com/pin/333688653616425645/

   https://www.pinterest.com/pin/486599934719834994/

   https://www.pinterest.com/pin/AZKeu9_U_pBCOTIAnqeLidBZBLO

  คำที่ใช้แทนกันได้จาก Pinterest 

    https://www.pinterest.com/pin/68732487220/?utm 

 ไวยกรณ์อังกฤษสำหรับผู้เริ่มเรียนใหม่จาก Pinterest

 https://www.pinterest.com/pin/492649939860053/?utm_campaign=popular_pins&

                        BBC

  

      http://www.bbc.com/news

       https://twitter.com/bbcinternetblog

   คำศัพท์และประโยคที่ควรจำจาก BBC

advertisment (แอดเวอะไทซิเมนทฺ)n.   =การโฆษณา

Mexico (เมคซิโก)n.   =ประเทศเม็คซิโก

Fireworks  (ไฟรเวิร์ค)n.   =ดอกไม้ไฟ, พลุ

Blast (บลาสทฺ)v.   =ระเบิด

Dozen (โดเซ็น)n.   =โหล

Kill (คิลล์)v.   =ฆ่า

Tultepec (ทูลเทเพค)n.   =ชื่อสถานที่เกิดเหตุ

Explosion (เอ็คซโพลซั่น)n.   =การระเบิด

Market (มาร์เก็ท)n.   =ตลาด

Outside (เอาทฺไซด์)adj.   =ด้านนอก, ภายนอก, ข้างนอก

City (ซิทิ)n.   =เมือง, นคร, บุรี, เมืองใหญ่, กรุง

Least  (ลีสทฺ)n.,adj.   =จำนวนน้อยที่สุด, น้อยที่สุด

People (พีเพิล)n.   =คน, ประชาชน, ราษฎร, พลเมือง,ประชากร

Official (ออฟฟิเซียล)n., adj.   =เจ้าหน้าที่, เป็นทางการ

     

    

          เคล็ดลับในการจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษ 10 ข้อ
 รู้สึกสมองตื้อทุกครั้งเมื่อนึกถึงการที่ต้องท่องจำศัพท์ภาษาอังกฤษซะมากมายใช่มั้ย? ที่จริงการท่องศัพท์ไม่จำเป็นต้องเป็นงานที่ทำให้ปวดหัวหรือเหนื่อยใจเสมอไปหรอก เชิญอ่านเคล็ดลับในการเรียนศัพท์ดังต่อไปนี้แล้วนำไปใช้รับรองได้ผลดีอย่างแน่นอน!  ภาษาอังกฤษ, จำศัพท์ภาษาอังกฤษ, เคล็ดลับเก่งภาษาอังกฤษ
   1.ความเกี่ยวเนื่อง: ถ้าคุณจัดคำศัพท์ออกเป็นหมวดหมู่ขึ้นอยู่กับความเกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กันระหว่างศัพท์แล้วเขียนออกมา
เป็นแผนผังจะทำให้คุณจำคำศัพท์ได้ง่ายขึ้น
   2.เขียน: การนำคำศัพท์นั้นมาใช้จะทำให้คุณจำได้ฝังใจยิ่งขึ้น ลองเขียนแต่งประโยคโดยนำศัพท์ใหม่ที่เรียนนั้นมาประกอบหรือแต่งเรื่องโดยใช้กลุ่มคำศัพท์หรือสำนวนที่เรียนอยู่
   3.วาดรูป: ดึงวิญญาณศิลปินในตัวคุณออกมาใช้ โดยการวาดรูปที่แสดงถึงศัพท์ที่คุณเรียนอยู่ ภาพที่คุณวาดจะช่วยกระตุ้นความทรงจำถึงศัพท์นั้นในอนาคต
   4.แสดง: แสดงท่าทางประกอบคำศัพท์หรือสำนวนที่คุณกำลังเรียนอยู่ หรือจินตนาการว่าคุณจะแสดงออกอย่างไรในสถานการณ์ที่คุณต้องใช้ศัพท์คำนั้น
   5.สร้าง: ออกแบบ Word cards ศัพท์ภาษาอังกฤษพร้อมความหมายแล้วเปิดอ่านหรือท่องในยามว่าง ทำเล่มใหม่ขึ้นทุกอาทิตย์และอย่าลืมทบทวนอันเก่าไปพร้อมๆ กันด้วย
   6.ความสัมพันธ์: กำหนดแต่ละสีให้แต่ละคำศัพท์ ความสัมพันธ์ของแต่ละคู่จะช่วยให้คุณจำศัพท์นั้นได้แม่นขึ้นเมื่อนึกถึงคำนั้นในคราวต่อไป
   7.ฟัง: นึกถึงศัพท์คำอื่นที่ออกเสียงคล้ายๆ กับคำศัพท์ใหม่ที่คุณพยายามเรียนอยู่ ใช้ความสัมพันธ์ตรงจุดนี้ในการช่วยให้คุณจำการออกเสียงของคำใหม่นั้น
   8.เลือก: จำไว้ว่าการเรียนในหัวข้อที่คุณชอบหรือสนใจจะทำให้คุณรู้สึกว่ามันง่ายขึ้น ฉะนั้นคุณควรใส่ใจในการเลือกคำศัพท์ที่คุณคิดว่ามีประโยชน์หรือน่าสนใจ เพราะแม้แต่กระบวนการเลือกคำที่จะเรียนก็มีผลให้คุณจำได้แม่นและเร็วขึ้นด้วยเช่นกัน !
   9.ข้อจำกัด: คุณก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้หรอกที่คนเราจะจำศัพท์ที่มีอยู่ในดิกชันนารี่ทั้งหมดได้ในวันเดียว เพราะฉะนั้นจำกัดการเรียนศัพท์ใหม่แค่วันละ 15 คำก็พอแล้ว ซึ่งถ้าพยายามจำให้มากคำเกินไปกว่านี้แทนที่มันจะทำให้คุณรู้สึกมั่นใจกลับจะทำให้คุณสมองตื้อแทน
   10.สังเกต: พยายามสังเกตหาคำศัพท์ที่คุณกำลังเรียนอยู่เมื่ออ่านหรือฟังภาษาอังกฤษ
                คำศัพท์ภาษาอังกฤษทุกหมวด

   

  https://dict.meemodel.com/%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%84%E0%B8%B3%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0

         ดิคชั่นนะรี่แปลคำศัพท์

  https://th.glosbe.com/en/th/Oxford%20English

 

    การเรียนรู้คำศัพท์แบบพิสดารจาก Pinterest                            

         
https://www.pinterest.com/pin/695454367434081985/?utm_campaign=search_rmkt&e_t=23dd0cec85dc4bdca0a897d229a4b36a&utm_content=695454367434081985&utm_source=31&utm_term=1&utm_medium=2012

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

นเนื้อหาของบทความหรือสินค้าโดยละเอียด

ก3.ณาใส่ข้อความ …

Visitors: 139,922