๑.การบริจาคแบบอิเล็กทรอนิคส์
บริจาคอิเล็กทรอนิกส์ กรมสรรพากร
บริจาคอิเล็กทรอนิกส์ กรมสรรพากร
ตอบกลับ การลงทะเบียนระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) กรมสรรพากร
E-mail: edonation@rd.go.th
Mon, Sep 17, 8:33 PM (8 hours ago)
to me
กรมสรรพากร ขอแจ้งให้ท่านทราบว่า เลขประจำตัวหน่วยรับบริจาคคือ : 0994002419781
ชื่อหน่วยรับบริจาค : ๙๕ วัดจอมมณี บ้านหนองบอน หมู่ที่ ๘ ต.นาโป่ง อ.เมือง
จ.เลย ร.๔๒๐๐๐
ที่อยู่ ,อาคาร - ,ห้องที่ - ,ชั้นที่ - ,หมู่บ้าน - ,เลขที่ - ,หมู่ที่ - ,ตรอก/ซอย - ,ถนน - ตำบล นาโป่ง , อำเภอ เมืองเลย , จังหวัด เลย รหัสไปรษณีย์ 42000
ได้รับการอนุมัติให้ใช้ระบบบริจาคอิเล็กทรอกนิกส์เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 17/09/2561
ท่านสามารถใช้ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) โดยระบุรหัสผู้ใช้ด้วยเลขประจำตัวหน่วยรับบริจาค 13 หลักและรหัสผ่านที่ได้กำหนดไว้
-รหัสผ่าน e-Donation: 98645795
-รหัส อีเมลผู้ใช้: rachun05@gmail.com
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation)
กรมสรรพากร
ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ กรมสรรพากร จงคลิกอ่านดูรายละเอียดที่ลิ้งค์ข้างล่างนี้
http://edonation.rd.go.th/donate/Index_InfoS.jsp
[PDF]คู่มือระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) กรมสรรพ 1
คู่มือระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) เวอร์ชั่น 2 ...
ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ ( e-Donation)
https://www.governmentcomplex.com/detail.php?p=2443
https://www.dharmniti.co.th/e-donation/
PDF]คาถาม – ค าตอบ ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation)
------------------------------------------------------------------------------------
หมายเหตุ: ข้อความและ E-mail นี้ เป็นการสร้างอัตโนมัติจากระบบฯ ไม่ต้องตอบกลับ
บัตรสมาร์ทการ์ด
บัตรสมาร์ทการ์ด
สมาร์ทการ์ดแบบสัมผัส
๐สมาร์ตการ์ดแบบสัมผัส (contact smart card) ตัวบัตรมีการฝังชิปใต้หน้าสัมผัสที่เป็นแผ่นโลหะสีทองขนาดเล็ก เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณครึ่งนิ้วไว้ที่ด้านหน้าของบัตร ตอนใช้งานต้องสอดบัตรเข้าในเครื่องอ่านให้หน้าสัมผัสของบัตรได้แตะกับหน้าสัมผัสภายในเครื่องอ่านบัตร ส่วนใหญ่จะเป็นกับบัตรเครดิตหรือบัตรเอทีเอ็ม ปัจจุบันประเทศไทยได้ใช้สมาร์ตการ์ดชนิดนี้ทำบัตรประจำตัวประชาชนหรือซิมการ์ดของโทรศัพท์มือถือ ปัจจุบันมีการทำบัตรเครดิตที่เป็นสมาร์ทการ์ดแบบสัมผัสด้วยเป็นบัตรวีซ่า pay wave เช่น บัตรบลูการ์ด สมาร์ทการ์ดแบบไร้สัมผัส
สมาร์ตการ์ดแบบไร้สัมผัส (contactless smart card) ตัวบัตรจะมีการฝังชิปและขดลวดสายอากาศเอาไว้ภายในซึ่งอาจมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น สามารถติดต่อกับเครื่องอ่านบัตรที่รับส่งสัญญาณผ่านคลื่นวิทยุได้ในระยะที่กำหนด ซึ่งอาจเป็นระยะที่ใกล้ชิด (proximity card) หรือระยะที่ใกล้เคียง (vicinity card) แล้วแต่มาตรฐานของบัตร โดยไม่จำเป็นต้องให้บัตรสัมผัสกับเครื่องอ่านดังกล่าว ส่วนใหญ่จะใช้กับบัตรเก็บเงินทางด่วน บัตรโดยสารของรถไฟฟ้า บีทีเอสและรถไฟฟ้าใต้ดิน และบัตรชำระเงินย่อยเช่นบัตร Smart Purse เป็นต้น
หลายๆคน อาจจะสงสัยกันว่า บัตรสมาร์ทการ์ด (Smart Card) ที่ได้ยินกันบ่อยๆ มันคือะไรกัน วันนี้ เราจะมาดูกันครับว่า บัตรสมาร์ทการ์ด มีคุณสมบัติอย่างไร
สมาร์ทการ์ด ถ้าให้มองในชีวิตประจำวันที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบัน รอบตัวเรามีเทคโนโลยี ที่ช่วยในการอำนวยความสะดวกสบายให้ชีวิตอยู่เต็มไปหมด เพราะทุกวันนี้โลกเราหมุนไวขึ้น การพัฒนาสิ่งต่างๆที่เข้ามาช่วยให้การใช้ชีวิตของมนุษย์สะดวกสบายก็ต้องยิ่งพัฒนาไวขึ้นตามไปด้วย จากสมัยก่อน เราเก็บข้อมูลต่างๆโดยการบันทึก การวาด หรือ การเขียน ลงในกระดาษ แต่สมัยนี้ เราสามารถบันทึกข้อมูลต่างๆในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ลงในอุปกรณ์ที่มนุษย์ได้พัฒนาและสร้างขึ้นมา ซึ่งทำให้การเก็บข้อมูลต่างๆ สามารถทำได้สะดวกสบายขึ้นมาก
สมาร์ทการ์ดที่เราพูดถึงกันเมื่อตอนต้น ถ้าใครนึกไม่ออกว่ามีอะไรบ้าง ไม่ต้องมองไกลตัวเลย “บัตรประชาชน” ที่เราทุกคนต้องพกติดตัวกันตลอดเวลานั้น ก็ถือว่าเป็นบัตรสมาร์ทการ์ดด้วยเช่นกัน รวมถึงบัตรเครดิตด้วยบัตรสมาร์ทการ์ด(Smart Card) คือ บัตรพลาสติกที่มีชิป IC (Integrated circuit) ติดหรือฝังอยู่ในตัวบัตรพลาสติกมีขนาดเท่าบัตรเครดิต เพื่อใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลและประมวลผลภายในตัวเองโดยวิธีการเข้ารหัสตามมาตรฐานเพื่อให้ระบบมีความปลอดภัยสูงขึ้น บัตรสมาร์ทการ์ด สามารถทำงานได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องอาศัยการติดต่อสื่อสารกับระบบหลัก (Font End) ทำให้ประหยัดในเรื่องระบบสื่อสารไปได้มากในการประมวลผล และจัดเก็บข้อมูล บัตรสมาร์ทการ์ดสามารถทำได้อย่างรวดเร็วกว่าสื่อสำหรับเก็บข้อมูลชนิดอื่น ๆ ด้วยขนาดที่เท่ากับบัตรแถบแม่เหล็กทำให้สะดวกในการจัดเก็บและพกพา นอกจากนี้บัตรสมาร์ทการ์ดยังมีคุณสมบัติด้านความทนทานไม่ว่าจะเป็น รังสีชนิดต่างๆ (ในปริมาณที่ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์) สนามแม่เหล็ก ไฟฟ้าสถิต ความชื้น ความร้อน การบิดงอ ฯลฯ ก็ไม่สามารถทำให้บัตรสมาร์ทการ์ดเสียหายได้
รู้หรือเปล่า!!? เลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก แต่ละหลักบอกอะไรได้บ้าง
บัตรประจำตัวประชาชนของประเทศไทย จะมีเลขที่บ่งบอกถึงเอกลักษณ์เฉพาะตัวของบุคคลนั้นอยู่ 13 หลักด้วยกัน แล้วเลขเหล่านี้จะไม่ซ้ำกับใคร ฉะนั้นบัตรประชาชนจึงเป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องพกเพื่อยืนยันตัวเรา แต่เพื่อนเคยสงสัยบ้างไหมว่า เลขทั้ง 13 ตัวบอกรายละเอียดเรื่องใดบ้าง
หลักที่ 1 (คือหมายเลข 1 ในตัวอย่าง) จะหมายถึง ประเภทบุคคล ซึ่งมีอยู่ 8 ประเภทได้แก่
ประเภทที่ 1 คือ คนที่เกิดและมีสัญชาติไทย และได้แจ้งเกิดภายในกำหนดเวลา หมายความว่า เด็กคนใดก็ตามที่เกิดตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2527 เป็นต้นไป อันเป็นวันเริ่มแรกที่เขาประกาศให้ประชาชนทุกคน ต้องมีเลขประจำตัว 13 หลัก เมื่อพ่อแม่ผู้ปกครองไปแจ้งเกิดที่อำเภอ หรือสำนักทะเบียนในเขตที่อยู่ภายใน 15 วันนับแต่เกิดมา ตามที่กฎหมายกำหนด เด็กคนนั้นก็ถือเป็นบุคคลประเภท 1 และจะมีเลขประจำตัวขึ้นด้วยเลข 1 เช่น เด็กหญิงส้มจี๊ด เกิดเมื่อวันที่ 2 มกราคม 2527 และพ่อไปแจ้งเกิดที่เขตดุสิตภายในวันที่ 17 มกราคม 2527 เด็กหญิงส้มจี๊ด ก็จะมีหมายเลขประจำตัวขึ้นต้นด้วยเลข 1 และก็ต่อด้วยเลขหลักอื่นๆ อีก 12 ตัว เป็น 1 1001 01245 29 9 เป็นต้น ซึ่งเลขนี้จะปรากฏในทะเบียนบ้าน และจะเป็นเลขประจำตัว เมื่อส้มจี๊ดไปทำบัตรประชาชนตอนอายุ 15 ปี
ประเภทที่ 2 คือ คนที่เกิดและมีสัญชาติไทย ได้แจ้งเกิดเกินกำหนดเวลา หมายความว่า เด็กคนใดก็ตามที่เกิดตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2527 เป็นต้นไป แล้วบังเอิญว่าพ่อแม่ผู้ปกครองลืมหรือติดธุระ ทำให้ไม่สามารถไปแจ้งเกิดที่อำเภอหรือเขตภายใน 15 วันตามกฎหมายกำหนด เมื่อไปแจ้งภายหลัง เด็กคนนั้นก็จะกลายเป็นบุคคลประเภท 2 และจะมีเลขตัวแรกในทะเบียนบ้านขึ้นด้วยเลข 2 ทันที เช่น ในกรณีส้มจี๊ด หากพ่อไปแจ้งเกิดให้ ในวันที่ 18 มกราคม 2527 หรือเกินกว่านั้น ส้มจี๊ดก็จะมีเลขประจำตัวเป็น 2 1001 01245 29 9 ในทะเบียนบ้าน และเมื่อไปทำบัตรประชาชนในภายหน้า
ประเภทที่ 3 คือ คนไทยและคนต่างด้าว ที่มีใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว และมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ในสมัยเริ่มแรก (คือตั้งแต่ก่อนวันที่ 31 พฤษภาคม 2527)หมายความว่า บุคคลใดก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นคนไทย หรือคนต่างด้าว ที่มีใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว และมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ณ ที่ใดที่หนึ่งในประเทศไทย มาตั้งแต่ก่อนวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2527 คนนั้นถือว่าเป็นบุคคลประเภท 3 และก็จะมีเลขประจำตัวขึ้นต้นด้วยเลข 3 เช่น ส้มจี๊ด เกิดเมื่อวันที่ 25 มกราคม พ.ศ.2501 และมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านแล้ว ส้มจี๊ดก็จะมีเลขประจำตัวในทะเบียนบ้าน และบัตรประชาชนเป็น 3 1001 01245 29 9
ประเภทที่ 4 คือ คนไทยและคนต่างด้าว ที่มีใบสำคัญคนต่างด้าวแต่แจ้งย้ายเข้า โดยยังไม่มีเลขประจำตัวประชาชนในสมัยเริ่มแรก หมายความว่า คนไทยหรือคนต่างด้าว ที่มีใบสำคัญคนต่างด้าว ที่อาจจะเป็นบุคคลประเภท 3 คือมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเดิมอยู่แล้ว แต่ยังไม่ทันได้เลขประจำตัว ก็ขอย้ายบ้านไปเขตหรืออำเภออื่น ก่อนช่วงวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2527 ก็จะเป็นบุคคลประเภท 4 ทันที เช่น ส้มจี๊ดมีชื่ออยู่ในสำนักทะเบียนเขตคลองสาน มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2501 ต่อมาในเดือนกุมภาพันธ์ 2527 ส้มจี๊ดก็ขอย้ายบ้านไปเขตดุสิต โดยที่ส้มจี๊ดยังไม่ทันได้เลขประจำตัวจากเขตคลองสาน พอแจ้งย้ายเข้าเขตดุสิต ส้มจี๊ดก็จะกลายเป็นบุคคลประเภท 4 มีเลขประจำตัวขึ้นต้นด้วย 4 กลายเป็น 4 1001 01245 29 9 ทันที แต่ถ้าส้มจี๊ดย้ายจากเขตคลองสานเดิม ไปเขตดุสิต หลังวันที่ 31 พฤษภาคม 2527 ส้มจี๊ดก็ยังเป็นบุคคลประเภท 3 อยู่ เพราะถือว่าจะได้เลขประจำตัวจากเขตคลองสานแล้ว จะย้ายอย่างไรก็ไม่เปลี่ยนแปลง
การกำหนดให้บุคคลเริ่มมีเลขประจำตัว 13 หลักในทะเบียนบ้านหรือบัตรประชาชน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2527 เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2527 อันเป็นวันสุดท้าย ของการดำเนินการให้ประชาชน ที่ไม่มีเลขประจำตัวในบัตรหรือทะเบียนบ้าน ได้มีเลขประจำตัวจนครบแล้วนั้น ก็เพราะก่อนหน้านี้ ประเทศไทยยังไม่เคยมีการกำหนดเลขประจำตัวดังกล่าวมาก่อนเลย ดังนั้น ช่วงที่ว่าจึงเป็นระยะเวลาจัดระบบให้เข้าที่เข้าทาง เพราะหลังจากวันที่ 31 พฤษภาคม 2527 แล้ว ทุกคนจะต้องมีเลขประจำตัวเพื่อสำแดงตนว่า เป็นบุคคลประเภทใด โดยดูตามเงื่อนไขในแต่ละกรณี ซึ่งมีอีก 4 ประเภท คือ
ประเภทที่ 5 คือ คนไทยที่ได้รับอนุมัติให้เพิ่มชื่อ เข้าไปในทะเบียนบ้านในกรณีตกสำรวจ หรือกรณีอื่นๆ เช่น ส้มจี๊ดมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเขตดุสิตอยู่แล้ว แต่บังเอิญว่าตอนที่มีการสำรวจรายชื่อผู้อยู่ในบ้าน เกิดความผิดพลาดทางเทคนิค ทำให้ชื่อของส้มจี๊ดหายไปจากทะเบียนบ้าน เมื่อไปแจ้งเจ้าหน้าที่และตรวจสอบแล้วว่าตกสำรวจจริง หรือจะเป็นเพราะกรณีอื่นใดก็ตาม เจ้าหน้าที่ก็จะเพิ่มชื่อให้ แต่ส้มจี๊ดก็จะมีหมายเลขในทะเบียนบ้านเป็นบุคคลประเภท 5 และบัตรประชาชนจะขึ้นต้นด้วยเลข 5 ทันที คือ กลายเป็น 5 1001 01245 29 9
ประเภทที่ 6 คือ ผู้ที่เข้าเมืองโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และผู้ที่เข้าเมืองโดยชอบด้วยกฎหมาย แต่อยู่ในลักษณะชั่วคราว กล่าวคือ คนที่มาอาศัยอยู่ในประเทศไทย แต่ยังไม่ได้สัญชาติไทย เพราะทางการยังไม่รับรองทางกฎหมาย เช่น ชนกลุ่มน้อยตามชายแดน หรือชาวเขา กลุ่มนี้ถือว่าเป็นผู้เข้าเมืองโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ส่วนบุคคลที่เข้าเมืองโดยชอบด้วยกฎหมาย แต่อยู่ชั่วคราว เช่น นักท่องเที่ยวหรือชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทย แม้บางคนจะถือพาสปอร์ตประเทศของตน แต่อาจจะมีสามีหรือภริยาคนไทย จึงไปขอทำทะเบียนประวัติ เพื่อให้มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านสามีหรือภริยา คนทั้งสองแบบที่ว่า ถือว่าเป็นบุคคลประเภท 6 เลขประจำตัวในบัตรจะขึ้นต้นด้วยเลข 6 เช่น 6 1012 23458 12
ประเภทที่ 7 คือ บุตรของบุคคลประเภทที่ 6 ซึ่งเกิดในประเทศไทย คนกลุ่มนี้ในทะเบียนประวัติจะมีเลขประจำตัวขึ้นต้นด้วยเลข 7 เช่น 7 1012 2345 133
ประเภทที่ 8 คือ คนต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยถูกต้องตามกฎหมาย คือ ผู้ที่ได้รับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว หรือคนที่ได้รับการแปลงสัญชาติเป็นสัญชาติไทย และคนที่ได้รับการให้สัญชาติไทย ตั้งแต่หลังวันที่ 31 พฤษภาคม 2527 เป็นต้นไปจนปัจจุบัน คนกลุ่มนี้เลขในทะเบียนประวัติจะขึ้นด้วยเลข 8 เช่น 8 1018 01234 24 7
คนทั้ง 8 ประเภทนี้ จะมีเพียงประเภทที่ 3, 4 และ 5 เท่านั้น ที่จะมีบัตรประชาชนได้เลย ส่วนประเภทที่ 1 และ 2 จะมีบัตรประชาชนได้ ก็ต่อเมื่อมีอายุถึงเกณฑ์ทำบัตรประจำตัวประชาชน คืออายุ 15 ปี แต่สำหรับบุคคลประเภทที่ 6, 7 และ 8 จะมีเพียงทะเบียนประวัติเล่มสีเหลืองเท่านั้น จะไม่มีการออกบัตรประชาชนให้
http://www.nationtv.tv/main/content/378545779/
ธนาคารกรุงเทพ พร้อมเพย์
https://www.bangkokbank.com/th-TH/Personal/Digital-Banking/PromptPay
https://www.youtube.com/watch?v=DxoXc4soP1A
https://www.youtube.com/watch?v=IFHVHodFn80
https://money.kapook.com/view151674.html
แผ่นเงินแผ่นทองและแผ่นนากทำตะกรุด
๐แผ่นเงินแผ่นทองและแผ่นนากเอาไปทำตะกรุดให้สั่งซื้อที่เว็บไซต์ข้างล่างนี้
http://www.dhammathai.org/webboard/dbview.php?No=3041
วิธีลบข้อความโฆษณาออกจากโทรศัพท์
๑.เปิดเว็บไซต์ AIS หรือ True ขึ้นมา
๒.คลิกที่ช่องล็อคอิน
๓.ใส่หมายเลขโทรศัพท์ในช่องโทรศัพท์
๔.คลิกในช่องตกลง
๕.ให้รอหมายเลขรหัสผ่าน
๖.ใส่รหัสผ่านเข้าไปในช่อง
๗.เมื่อเข้าไปแล้วให้คลิกที่เมนูบริการ
๘.ให้คลิกที่เมนู เลือก / ยกเลิก SMS
๙.ให้คลิกเครื่องหมายถูกที่ช่องไม่รับข้อความ
https://myais.ais.co.th/login?returnUrl=%2Fhome
รายจ่ายค่าก่อสร้างศาลาหอกลองวัดจอมมณี
พ.ศ.๒๕๕๗
-วันที่ ๑๐ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๗
-จ่ายเงินงวดที่ ๑ จ่ายค่าตีผังวางตงตั้งเสารวม ๓๒ ต้น จำนวน ๕๐๐๐๐๐ บาทถ้วน
รวมค่าใช้จ่ายในปี พ.ศ.๒๕๕๗ เป็นจำนวนเงิน ๕๐๐๐๐๐ บาท
พ.ศ.๒๕๕๘
-วันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๕๘
-จ่ายเงินงวดที่ ๒ จ่ายค่าผูกเหล็กเข้าแบบคานและวางแผ่นพื้นสำเร็จ จำนวนเงิน ๕๐๐๐๐๐ บาทถ้วน
-วันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๘
-จ่ายเงินงวดที่ ๓ จ่ายค่าการเข้าแบบผูกเหล็กเทคานชั้นที่ ๒ จำนวนเงิน ๔๐๐๐๐๐ บาทถ้วน
รวมค่าใช้จ่ายในปี พ.ศ๒๕๕๘ เป็นจำนวนเงิน ๙๐๐๐๐๐ บาท
พ.ศ.๒๕๕๙
-วันที่ ๔ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๙
-จ่ายเงินงวดที่ ๔ จ่ายค่าแบบคานวางแผ่นพื้นชั้นที่ ๒ จำนวนเงิน ๓๐๐๐๐๐ บาทถ้วน
รวมค่าใช้จ่ายในปี พ.ศ.๒๕๕๙ เป็นจำนวนเงิน ๓๐๐๐๐๐ บาท
พ.ศ.๒๕๖๐
-วันที่ ๑๘ มกราคม พ.ศ.๒๕๖๐
-จ่ายเงินงวดที่ ๕ จ่ายค่าผูกเหล็กเทคานและวางแผ่นพื้นชั้นที่สองต่อ จำนวนเงิน ๒๐๐๐๐๐ บาทถ้วน ช่วงนี้ช่างทำงานไม่เสร็จตามสัญญาใช้เงินก่อสร้างไป ๑๕๐๐๐๐ บาท ขาดช่วงไปสองเดือน ช่างไม่มาทำงานต่อ ทางวัดเห็นว่าช่างไม่ทำตามสัญญาที่ได้ตกลงกันไว้จึงได้ทำการยกเลิกการว่าจ้าง
-วันที่ ๒๙ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๐
-จ่ายเงินงวดที่ ๖ จ่ายค่าผูกเหล็กเทคานและการวางแผ่นพื้นที่ยังค้างอยู่ จำนวนเงิน ๑๑๘๘๐๙ บาท
-วันที่ ๒ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๖๐
-จ่ายเงินงวดที่ ๗ จ่ายค่าตั้งเสาโครงหลังคาและเสาหอกลอง จำนวนเงิน ๓๐๐๐๐๐ บาทถ้วน
รวมค่าใช้จ่ายในปี พ.ศ.๒๕๖๐ เป็นจำนวนเงิน ๓๑๘๘๐๙ บาท
พ.ศ.๒๕๖๑
-วันที่ ๑๒ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๖๑
-จ่ายเงินงวดที่ ๘ จ่ายค่าก่อสร้างโครงหลังคาเป็นจำนวนเงิน ๑๕๐๐๐๐ บาท
-วันที่ ๒๖ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๖๑
-จ่ายเงินงวดที่ ๙ จ่ายค่าก่อสร้างโครงหลังคาเป็นจำนวนเงิน ๑๐๐๐๐๐ บาท
-วันที่ ๓ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๖๑
-จ่ายเงินงวดที่ ๑๐ จ่ายค่าก่อสร้างโครงหลังคาเป็นจำนวนเงิน ๑๐๓๐๐๐ บาท
-วันที่ ๑๐ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๖๑
-จ่ายเงินงวดที่ ๑๑ จ่ายค่าถมดินรอบบริเวณศาลาเป็นจำนวนเงิน ๓๐๐๐๐ บาท
-วันที่ ๑๖ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๖๑
-จ่ายเงินงวดที่ ๑๒ จ่ายค่าถมดินรอบบริเวณศาลาเป็นจำนวนเงิน ๕๗๕๐๐ บาท
-วันที่ ๑ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๑
-จ่ายเงิดงวดที่ ๑๓ จ่ายค่ากระเบื้องและค่าแรงมุงหลังคาเป็นจำนวนเงิน ๔๐๐๐๐๐ บาทถ้วน
-วันที่ ๗ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๑
-จ่ายเงินงวดที่ ๑๔ จ่ายค่าทำรางน้ำฝนและท่อระบายน้ำ เป็นจำวนเงิน ๕๘๐๐๐ บาท
-วันที่ ๑๕ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๑
-จ่ายเงินงวดที่ ๑๕ จ่ายค่าซื้อท่อ พี.วี.ซี. เครื่องอุปกรณ์ ๑๐๔๘๑ บาท
-วันที่ ๒๑ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๑
-จ่ายเงินงวดที่ ๑๖ จ่ายค่าอิฐบล็อดและปูน เป็นจำนวนเงิน ๑๓๒๐ บาท
-วันที่ ๒๔ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๑
-จ่ายเงินงวดที่ ๑๗ จ่ายค่าก่อฐานตั้งลูกกรงเซรามิค เป็นจำนวนเงิน ๒๘๓๖ บาท
-วันที่ ๒๘ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๑
-จ่ายเงินงวดที่ ๑๘ จ่ายค่าก่อฝาและการเทพื้นชั้นล่าง เป็นจำนวนเงิน ๑๘๗๐๐๐ บาท
รวมค่าใช้จ่ายในปี พ.ศ.๒๕๖๑ เป็นจำนวนเงิน ๑๑๐๐๑๓๗ บาท
พ.ศ.๒๕๖๒
-วันที่ ๒๔ มกราคม พ.ศ.๒๕๖๒
-จ่ายเงินงวดที่ ๑๙ จ่ายค่ากระเบื้องปูพื้นชั้นที่ ๓ เป็นจำนวนเงิน ๒๙๒๕๐ บาท
-วันที่ ๓๐ มกราคม พ.ศ.๒๕๖๒
-จ่ายเงินงวดที่ ๒๐ จ่ายค่าซี้อประตูไม้สัก ๒ บาน และเครื่องอุปกรณ์ เป็นจำนวนเงิน ๕๙๓๔ บาท
-วันที่ ๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๒
-จ่ายเงินงวดที่ ๒๑ จ่ายจ่ายค่าช่างงวดที่หนึ่ง เป็นจำนวนเงิน ๑๒๐๐๐๐
บาท
-วันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๒
-จ่ายเงินงวดที่ ๒๒ จ่ายค่าประตูบานเลื่อน ๒ ช่อง เป็นจำนวนเงิน ๓๓๐๐๐ บาท
-วันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๒
-จ่ายเงินงวดที่ ๒๓ จ่ายค่าราวสแตนเลส เป็นจำนวนเงิน ๒๐๐๐๐ บาท
-วันที่ ๑๕ เมษายน พ.ศ.๒๕๖๒
-จ่ายเงินงวดที่ ๒๔ จ่ายค่าช่างและเครื่องอุปกรณ์ เป็นจำนวนเงิน ๑๕๐๐๐๐ บาท
-วันที่ ๙ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๒
-จ่ายเงินงวดที่ ๒๕ จ่ายค่าช่างปูกระเบื้องและเครื่องอุปกรณ์ทำบันได เป็นจำนวนเงิน ๙๐๐๐ บาท
-วันที่ ๑๓ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๒
-จ่ายเงินงวดที่ ๒๖ จ่ายค่าสแตนเลสทำราวบันได เป็นจำนวนเงิน ๑๒๐๐๐ บาท
-วันที่ ๑๔ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๖๒
-จ่ายเงินงวดที่ ๒๗ จ่ายเงินค่าถมดินรอบศาลา ๒๐๐ รถ เป็นจำนวนเงิน ๓๐๐๐๐ บาท
-วันที่ ๒๒ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๖๒
-จ่ายเงินงวดที่ ๒๘ จ่ายค่ารถแม็คโคทุบโรงครัวเก่า เป็นจำนวนเงิน ๓๕๐๐
บาท
-วันที่ ๒๔ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๖๒
-จ่ายเงินงวดที่ ๒๘ จ่ายค่าถมดินรอบศาลา ๑๕๐ รถ เป็นจำนวนเงิน ๑๕๐๐๐ บาท
-วันที่ ๓๐ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๖๒
-จ่ายเงินงวดที่ ๒๙ จ่ายค่าซื้อท่อ พี.วี.ซี รุ่น 6 นิ้วซ่อนท่อระบายน้ำศาลา เป็นจำนวนเงิน ๓๐๐๐ บาท
-วันที่ ๒๓ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๖๒
-จ่ายเงินงวดที่ ๓๐ จ่ายค่าแรงและค่าอุปกรณ์ในการก่อฉาบฝา เป็นจำนวนเงิน ๖๐๐๐๐ บาท
-วันที่ ๓๐ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๖๒
-จ่ายเงินงวดที่ ๓๑ จ่ายค่าซื้อวงกบติดประตูห้องน้ำ เป็นจำนวนเงิน ๓๐๐๐ บาท
-วันที่ ๙ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๖๒
-จ่ายเงินงวดที่ ๓๒ จ่ายค่าแรงและค่าซื้อเครื่องอุปกรณ์ เป็นจำนวนเงิน ๔๐๐๐๐ บาท
-วันที่ ๒๓ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๖๒
-จ่ายเงินงวดที่ ๓๓ จ่ายค่าแรง เป็นจำนวนเงิน ๑๐๐๐๐ บาท
-วันที่ ๑ กันยายน พ.ศ.๒๕๖๒
-จ่ายเงินงวดที่ ๓๔ จ่ายค่าแรง เป็นจำนวนเงิน ๗๐๐๐ บาท
-วันที่ ๕ กันยายน พ.ศ.๒๕๖๒
-จ่ายเงินงวดที่ ๓๕ จ่ายต่าแรง เป็นจำนวนเงิน ๕๐๐๐๐ บาท
วันที่ ๗ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๒
-จ่ายเงินงวดที่ ๓๖ จ่ายค่าหน้าต่าง เป็นจำนวนเงิน ๕๑๘๐๐ บาท
-วันที่ ๒๘ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๒
-จ่ายเงินงวดที่ ๓๗ จ่ายค่าแรงและค่าวัสดุการก่อสร้าง เป็นจำนวนเงิน ๑๐๐๐๐๐ บาท
-วันที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๒
-จ่ายเงินงวดที่ ๓๘ จ่ายค่าแรงและค่าเครื่องอุปกรณ์ไฟฟ้าและสี เป็นจำนวนเงิน ๙๐๐๐๐ บาท
-วันที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๒
-จ่ายเงินงวดที่ ๓๙ จ่ายค่ากระเบื้องปูพื้น เป็นจำนวนเงิน ๖๒๓๔๕ บาท
-จ่ายเงินงวดที่ ๔๐ จ่ายค่าพัดลมติดศาลา เป็นจำนวนเงิน ๑๗๘๘๐ บาท
-วันที่ ๒๐ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๒
-จ่ายเงินงวดที่ ๔๑ จ่ายต่าช่าง เป็นจำนวนเงิน ๑๐๐๐๐ บาท
รวมค่าใช้จ่ายในปี พ.ศ.๒๕๖๒ เป็นจำนวนเงิน ๙๒๔๗๐๙
พ.ศ.๒๕๖๓
-วันที่ ๑๕ เมษายน พ.ศ.๒๕๖๓
-จ่ายเงินงวดที่ ๔๒ จ่ายค่าทำแท่นพระ เป็นจำนวนเงิน ๗๔๐๐๐ บาท
-วันที่ ๒๘ เมษายน พ.ศ.๒๕๖๓
-จ่ายเงินงวดที่ ๔๓ จ่ายค่าปูกระเบื้องภายในศาลาครั้งที่ ๑ เป็นจำนวนเงิน ๕๑๘๐๐ บาท
-วันที่ ๒๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๓
-จ่ายเงินงวดที่ ๔๔ จ่ายค่าปูกระเบื้องภายในศาลาครั้งที่ ๒ เป็นจำนวนเงิน ๓๙๖๐๐ บาท
-วันที่ ๒๗ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๓
-จ่ายเงินงวดที่ ๔๕ จ่ายค่าปูกระเบื้องรอบนอกศาลาครั้งที่ ๑ เป็นจำนวนเงิน ๔๒๐๐๐ บาท
-วันที่่ ๒๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๓
-จ่ายเงินงวดที่ ๔๖ จ่ายค่าทำตาข่ายกั้นรางน้ำ เป็นจำนวนเงิน ๑๐๐๐๐ บาท
-วันที่ ๒๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๓
-จ่ายเงินงวดที่ ๔๗ จ่ายค่าทำที่แกั้นระบายน้ำ เป็นจำนวนเงิน ๕๕๐๐ บาท
-วันที่ ๑๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๓
-จ่ายเงินงวดที่ ๔๘ จ่ายค่าทำภาพโชว์หน้าศาลา เป็นจำนวนเงิน ๓๐๐๐ บาท
-วันที่ ๑๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๓
-จ่ายเงินงวดที่ ๔๙ จ่ายค่าประตูบานเลือน เป็นจำนวนเงิน ๔๙๐๐๐ บาท
-วันที่ ๑๖ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๖๓
-จ่ายเงินงวดที่ ๕๐ จ่ายค่าปูอิฐตัวหนอน เป็นจำนวนเงิน ๔๕๐๐๐ บาท
-วันที่ ๒๔ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๖๓
-จ่ายเงินงวดที่ ๕๑ จ่ายค่าปูกระเบื้องรอบนอกศาลา เป็นจำนวนเงิน ๓๐๐๐๐ บาท
-วันที่ ๑๔ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๓
-จ่ายเงินงวดที่ ๕๒ จ่ายค่าปูอิฐตัวหนอนหน้าศาลา เป็นจำนวนเงิน ๒๕๐ ๐๐ บาท
-วันที่ ๑๙ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๖๓
-จ่ายเงินงวดที่ ๕๓ จ่ายค่าแผ่นปิดรอยแตก เป็นจำนวนเงิน ๗๐๐ บาท
-วันที่ ๒๕ สิงหคม พ.ศ.๒๕๖๓
-จ่ายเงินงวดที่ ๕๔ จ่ายค่าปูอิฐตัวหนอน เป็นจำนวนเงิน ๑๘๐๐๐ บาท
-วันที่ ๒๙ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๖๓
-จ่ายเงินงวดที่ ๕๕ จ่ายค่าทำบันไดชั้นนอก ครั้งที่ ๑ เป็นจำนวนเงิน ๔๘๐๐๐ บาท
รวมค่าใช้จ่าย ๔๑๙๐๐๐
-วันที่ ๑๒ กันยายน พ.ศ.๒๕๖๓
-จ่ายเงินงวดที่ ๕๖ จ่ายค่าทำบันไดชั้นนอกครั้งที่ ๒ เป็นจำนวนเงิน ๒๐๐๐๐ บาท
-วันที่ ๑๓ กันยายน พ.ศ.๒๕๖๓
-จ่ายเงินงวดที่ ๕๗ จ่ายค่าซื้ออุปกรณ์ทำบันได เป็นจำนวนเงิน ๑๑๘๗๐ บาท
-วันที่ ๑๘ กันยายน พ.ศ.๒๕๖๓
-จ่ายเงินงวดที่ ๕๘ จ่ายค่าทำบันไดชั้นนอกครั้งที่ ๓ เป็นจำนวนเงิน ๒๐๑๒๙ บาท
-วันที่ ๒๓ กันยายน พ.ศ.๒๕๖๓
-จ่ายเงินงวดที่ ๕๙ จ่ายค่าทำบันไดชั้นในครั้งที่ ๑ เป็นจำนวนเงิน ๔๕๐๐๐ บาท
-วันที่ ๒๒ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๓
-จ่ายเงินงวดที่ ๖๐ จ่ายค่าทำบันไดชั้นในครั้งที่ ๒ เป็นจำนวนเงิน ๑๕๐๐๐ บาท
-วันที่ ๕ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๖๓
-จ่ายเงินงวดที่ ๖๑ จ่ายค่าหินเกล็ด เป็นจำนวนเงิน ๑๔๐๐ บาท
-วัรที่ ๕ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๖๓
-จ่ายเงินงวดที่ ๖๒ จ่ายค่าปั้นพญานาคครั้งที่ ๑ เป็นจำนวนเงิน ๑๐๐๐๐ บาท
-วันที่ ๑๕ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๖๓
-จ่ายเงินงวดที่ ๖๓ จ่ายค่าทำบันไดชั้นในครั้งที่ ๓ เป็นจำนวนเงิน ๑๕๐๐๐ บาท
-วันที่ ๑๗ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๖๓
-จ่ายเงินงวดที่ ๖๔ จ่ายค่าทำราวสแตนเลสครั้งที่ ๑ เป็นจำนวนเงิน ๑๕๐๐๐ บาท
-วันที่ ๒๓ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๓
-จ่ายเงินงวดที่ ๖๕ จ่ายค่ปั้นพญานาคครั้งที่ ๒ เป็นจำนวนเงิน ๑๗๐๐๐ บาท
รวมค่าใช้จ่าย ในปี พ.ศ.๒๕๖๓ เป็นจำนวยนเงิน ๖๑๑๙๙๙
พ.ศ.๒๕๖๔
วันที่ ๔ มกราคม พ.ศ.๒๕๖๔
-จ่ายเงินงวดที่่ ๖๖ จ่ายค่าฉาบเสาและคานชั้นล่างครั้งที่ ๑ เป็นจำนวเงิน
๖๐๐๐๐ บาท
วันที่ ๒๑ มกราคม พ.ศ.๒๕๖๔
-จ่ายเงินงวดที่ ๖๗ จ่ายค่าฉาบเสาและคานชั้นล่างครั้งที่ ๒ เป็นจำนวนเงืน ๔๕๐๐๐ บาท
วันที่ ๑๒ กุมภาพุนธ์ พ.ศ.๒๕๖๔
-จ่ายเงินงวดที่ ๖๘ จ่ายค่าฉาบเสาและคานชั้นล่างครั้งที่ ๓ เป็นจำนวนเงิน
๒๕๐๐๐ บาท
วันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๔
-จ่ายเงินงวดที่ ๖๙ จ่ายค่าทำเพดาน,ติดตั้งไฟฟ้า,และทาสี งวดที่ ๑ เป็นจำนวนเงิน ๗๕๐๐๐ บาท
วันที่ ๑๒ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๔
-จ่ายเงินงวดที่ ๗๐ จ่ายค่าทำเพดานและติดตั้งไฟฟ้าครั้งที่ ๒ เป็นจำนวนเงิน ๕๐๐๐๐ บาท
วันที่ ๗ เมษายน พ.ศ.๒๕๖๔
-จ่ายเงินงวดที่ ๗๑ จ่ายค่าทำเพคานชั้นล่างและทาสีครั้งที่ ๓ เป็นจำนวนเงิน ๔๐๐๐๐ บาท
วันที่ ๑๘ เมษายน พ.ศ.๒๕๖๔
-จ่ายเงินงวดที่ ๗๒ จ่ายค่าทำเพดานและทาสีชั้นล่างครั้งที่ ๔ เป็นจำนวนเงิน ๓๕๐๐๐ บาท
วันที่ ๑ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๔
จ่ายเงินงวดที่ ๗๓ จ่ายค่าปูกระเบื้องชั้นล่างครั้งที่ ๑ เป็นจำนวนเงิน ๙๕๐๐๐ บาท
วันที่ ๑๕ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๔
-จ่ายเงินงวดที่ ๗๔ จ่ายค่าปูกระเบื้องชั้นล่างครั้งที่ ๒ เป็นจำนวนเงิน ๖๕๐๐๐ บาท
วันที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๖๔
-จ่ายเงินงวดที่ ๗๙ จ่ายค่าปูกระเบื้องพื้นชั้นล่างครั้งที่ ๓ เป็นจำนวนเงิน
๔๕๐๐๐ บาท
วีนที่ ๒๑ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๖๔
-จ่ายฃเงินงวดที่ ๘๐ จ่ายค่าทำราวมสแตนเลสชั้นล่างเป็นจำนวนเงิน ๔๐๐๐๐ บาท
วันที่ ๒๗ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๖๔
-จ่ายเงินงวดที่ ๘๑ จ่ายค่าการติดประตูและหน้าต่างเป็นจำนวนเงิน ๙๐๐๐๐ บาท
วันที่ ๑ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๖๔
-จ่ายเ้งินงวดที่ ๘๒ จ่ายค่าทำประตูและกั้นฝาห้องด้านในเป็นจำนวนเงิน ๔๕๐๐๐ บาท
รวมค่าใช้จ่ายในปี พ.ศ.๒๕๖๔ =๗๑๐๐๐๐ บาท
เป็นเนื้อหาของบทความหรือสินค้าโดยละเอียด
กรุณาใส่ข้อความ …