๑.เรื่องลี้ลับเกี่ยวกับวิญญาณ

          เรื่องลี้ลับเกี่ยวกับวิญญาณ    

     ๑.เรื่องเล่า ถึงการย้ายศาลพระพรหม และการไปยุ่งเกี่ยวกับวิญญาณอื่นๆ     
เมื่อวันพุธ ที่ ๑๒ มกราคม ๕๔ ที่ผ่านมา เป็นอีกครั้งที่ผมได้กลับเข้าไปที่ กรมสวัสดิการทหารบกอีกครั้ง เพราะเป็นการทำพิธี ย้ายพระพรหม ไปประทับในห้องประชุมของกรมสวัสดิการทหารบกก่อน เนื่องจากจะมีการทุบพื้นที่ และจัดที่ตั้งวางศาลใหม่ซึ่งพราหมณ์ จากในราชวัง เป็นผู้มาทำพิธีการให้ในครั้งนี้ ซึ่งเรื่องกรมสวัสดิการทหารบก ผมได้เคยเขียนถึงไปแล้ว ในวันก่อนๆ จึงไม่อยากจะรื้อฟื้นอะไรอีก แต่ในหัวข้อของวันนี้ ที่จะมา
พูดถึง คือการที่จะมีการปรับปรุงอะไรก็ตามในบริเวณของศาลพระพรหมนั้น ในทุกครั้งจำเป็นที่จะต้อง มีพราหมณ์เป็นผู้มาทำพิธี ด้วยในทุกครั้ง ทั้งนี้เพราะทางพราหมณ์จะเข้าใจและจัดวางลำดับขั้นตอนในการทำ ให้ถูกต้อง และแน่นอนว่า วันและเวลาในการ
ทำนั้น จะมีการให้ฤกษ์ด้วยเสมอในทุกครั้งเช่นกัน
   วันนี้ ท่านเจ้ากรมฯ ได้ส่งคนของท่านมารับแต่เช้า แม้เวลาในพิธีจะเป็นเวลา ๐๙.๐๙ น. แต่เนื่องจากบริเวณสี่เสาเทเวศน์นั้น ในช่วงเช้ารถจะติดมากเป็นพิเศษ จึงต้องรีบออกกันแต่เช้า ผมจึงไปถึงที่กรมในเวลาประมาณ ๐๗.๐๐ น. เศษ และเช่นเคยที่ได้พบท่านที่กรมเสมอ เนื่องจากท่านนั้นเป็นคนมาทำงานแต่เช้ามืดทุกวัน และการปรับปรุงพื้นที่และย้ายองค์พระพรหมนั้น เจ้าของพื้นที่ ซึ่งในขณะนี้ คือท่านเจ้ากรมสวัสดิการคนปัจจุบัน ต้องอยู่ด้วยครับ อันนี้ไม่ว่าจะเป็นบ้าน หรือบริษัทต่างๆ ที่มีพิธีกรรมในเรื่องพวกนี้ เจ้าของบ้านหรือเจ้าของบริษัทต้องอยู่ด้วยในทุกครั้งนะครับ ห้ามใช้ตัวแทนเด็ดขาดครับ และในช่วงระหว่างที่รอเวลานั้น ท่านได้พาเดินไปที่บริเวณใกล้เคียง ซึ่งมีการตั้งศาลของเจ้าแม่......(ขออนุญาตไม่เอ่ยชื่อ)

   อีกศาลหนึ่ง และได้เอ่ยว่า ควรจะต้องทำการปรับปรุงด้วยหรือไม่ ผมจึงให้คำแนะนำไปว่า ในกรณีที่เป็นศาลอื่นๆ หรือประเภทอื่น อย่างที่เราอาจรู้จักดีคือ กุมารทอง หรืออะไรในอย่างเดียวกันนี้ ถ้าในพื้นที่มีศาลพระภูมิ หรือศาลพระพรหม หรือแม้แต่ห้องพระในบ้าน การจะตั้งศาลหรือนำเข้าบ้าน จำเป็นอย่างยิ่งที่เจ้าบ้าน หรือเจ้าของพื้นที่ จะต้องจุดธูปเพื่อขออนุญาตก่อนนะครับ จากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในบริเวณบ้าน หรือในบ้านของเราก่อนนะครับ ไม่อย่างนั้น อาจเป็นได้ที่เราจะได้แต่รูปหรือตัวองค์เข้าบ้านไป แต่ตัวจริงหรือวิญญาณจริงพวกนี้ จะเข้าไปในบ้านตามเราไม่ได้ จึงแนะนำให้ท่าน ได้พูดคุยกับทางพราหมณ์เพื่อแจ้งให้ทราบว่า เรามีศาลแต่เดิมนี้อยู่ด้วย และอาจต้องให้ทางพราหม์ แจ้งขอแก่องค์พระพรหมท่านด้วย
   อันนี้เป็นอีกเกร็ดหนึ่ง ที่บางร้านขายของหรือทำการค้า ได้ไปเช่าหรือขอกุมารมาเลี้ยง แต่ไม่ได้ขอต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในพื้นที่ก่อนที่จะนำเข้า จึงเป็นเหตุให้กุมารนั้น จะตามเราเข้าพื้นที่ไม่ได้ครับ ซึ่งถ้ามีความผูกพันกัน น้องเขาอาจมาเข้าฝัน เพื่อแจ้งให้เราทราบ
หากแต่ถ้ายังเป็นกุมารที่ยังไม่แกร่งกล้าพอ ก็อาจจะยังมาเข้าฝันเราไม่ได้ ก้ยิ่งน่าเสียดายครับ
   ในอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งตอนนี้เอง ก็กำลังมีรายการทีวี รายการหนึ่ง ที่ชอบนำคนเข้าไปทำพิธีอะไรต่างๆ ในบริเวณที่เชื่อว่า มีวิญญาณหรือมีอะไรเฮี้ยนๆ นั้น แม้ว่าจะมีการจุดธูปขอเพื่อบอกกล่าว หรือทำพิธีอะไรก็ตาม แต่การรบกวน ก็คือการรบกวนนะครับ เจอพวกวิญญาณดีๆ ไม่อาฆาตมากก็แล้วไป แต่หากเจอพวกวิญญาณที่อาฆาตแรง หรือแม้แต่พวกที่อยู่อย่างสงบๆ ก็ไม่ชอบที่จะมีอะไรอย่างนี้ไปรบกวน หรือเข้าไปในพื้นที่ของเขา ผมเรียนตามตรงว่า หากมีอะไรเกิดขึ้น ในภายหลังแก่ผู้ที่มาร่วมในรายการ หรือเกิดขึ้น ณ.ปัจจุบันนั้น จะเกิดอะไรขึ้น ใครจะรับรองความปลอดภัยทั้งในขณะนี้ และในภายหลัง เกิดวิญาณนั้นอาจชอบ หรือไปผูกพันกับใครคนใดคนหนึ่งที่มาร่วมในรายการ ตามไปบ้าน หรือตามติดตัวไป จะทำกันยังไง มักมีการพูดเสมอว่า ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ แต่นี่คือการเข้าไปรบกวน จะหมายความว่าอะไร ในทางพระหรือในทางธรรม เป็นที่ทราบกันดีว่า ต่างคนต่างอยู่ ไม่รบ กวนซึ่งกันและกัน ไปยุ่งกับพวกนี้มากๆ ความสุขความเจริญในชีวิตจะมีหรือไม่

   ความปลอดภัยแก่ผู้ไปรบกวนจะมีหรือไม่ โปรดคิดและพิขารณากันดีๆ ผมเองและแม้แต่คนที่ฝึกมาในทางนี้โดยเฉพาะ ก็ทราบดีว่า การเข้าไปในพื้นที่อะไรก็ตาม ที่สุ่มเสี่ยง และทำเพียงเพื่อปัจจัยบาง อย่าง นั้นไม่สมควรอย่างยิ่ง เอาง่ายๆว่า อยู่ดีๆ เห็นผีหรือวิญญาณพวกนี้บ่อยๆ ยังต้องไปรดน้ำมนต์ที่วัดเลย ก็ฝากๆกันไว้แล้วกันครับ และในช่วงที่ถึงเวลาทำพิธีนั้น เป็นที่แปลกมากที่มีฝนตกปรอยๆลงมาตลอด และเมื่อทำพิธีเสร็จ แดดก็กลับมาเปรี้ยงดังเดิม แต่โดยส่วนตัวนั้น ผมทราบดีว่า ฟ้าได้เปิดแล้ว การได้ทำสิ่งที่ถูกต้อง ไม่แม้แต่ทุกคนในพื้นที่ได้ประโยชน์ แม้แต่วิญญาณ สัภเวสีต่างๆ ก็มาร่วมรับผลบุญ เทวดา ฟ้าดิน ก็มาเจริญในธรรมของพระพรหม การที่พื้นที่ถูกปกปิดมาช่วงหนึ่ง การทำพิธีบางอย่างที่ตัวองค์ท่านอย่างไม่ถูกต้อง กำลังจะถูกชะล้าง และทำให้ถูกต้องอีกครั้ง
   ผมได้กล่าวให้ท่านเจ้ากรม ฟังว่า วันนี้มากันเยอะนะครับ และในวันที่เตรียมพื้นที่ ซึ่งปรับปรุงใหม่เสร็จ เพื่อให้ประชาชนทั้งทหารและคนทั่วไปในบริเวณนั้น สามารถมาเคารพ กราบไหว้ท่านได้ง่ายขึ้น และในวันที่ศาลใหม่ขององค์ท่านเสร็จ และเชิญองค์ท่านกลับมาประดิษฐานในที่นี้อีกครั้ง และมีการทำพิธีอย่างถูกต้องโดย พราหมณ์ ผู้จัดทำ และรู้ในพิธีกรรมต่างๆ เป็นผู้ทำพิธี อาจมีนิมิตรบางอย่างเกิดขึ้นอีกครั้ง และด้วยผลบุญที่ท่านเจ้ากรม ได้ทำทุกอย่างให้ถูกต้อง เพื่อให้ทั้งกรม ทหารในกรม และคนในพื้นที่
ได้รับกุศลผลบุญไปด้วย ก็จะนำมาซึ่งความสุข ความเจริญต่อๆไป    ความจริงมีอีกหลายอย่างที่น่าแปลก และเกิดขึ้น แต่เป้นเรื่องส่วนตัว ระหว่างผม กับท่านเจ้ากรม จึงไม่ขอเอ่ย และนำมาพูดถึงในที่นี้ แต่เกร็ดในเรื่องต่างๆ ที่เล่าไป น่าจะมีประโยชน์ต่อเพื่อนๆ หลายท่านตามสมควรครับ
ขอขอบคุณ
อ.ณัฐวรรธน์ ปภาเทพ ๑๕ มกราคม ๒๕๕๔
(ในรูป เป็นผมกับพิธีกร น้องทิพย์ ในรายการ จิตพยากรณ์ ซึ่งเป็นรายการที่ นำเสนอในเรื่องลี้ลับต่างๆครับ)

   https://www.youtube.com/watch?v=lcEHdnDsWPs

      กรุณาคลิกลิ้งค์ข้างล่างนี้ขึ้นมาศึกษาประกอบ

  https://www.google.co.th/search?source=hp&ei=TYzxWfz8FMXqvgT8tayQBA&q=%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3+%E0%B8%88%E0

   ๒.เรืองคนตายไปแล้วมาเข้าฝันให้สามีไปเก็บกระดูกบอกว่าตัวเองหนาว

    นางบัวบาน (ยายแสงเดือน)   นามสกุลสุริยะ  ได้ตายไปในวันที่ 29  เดือน กรกฎาคม   พ.ศ.๒๕๓๕   เมื่อยายตายไปแล้วสามีและลูกๆได้ทำบุญอุทิศให้แก่ศพตามประเพณีนิยมหลังจากนั้นก็ได้นำเอาศพไปเผาที่ป่าช้า  ตอนที่เอาศพยายแสงเดือนไปเผามันเป็นน่าฝน  พอเผาเสร็จแล้วจะปล่อยทิ้งไว้ ๓ วันจึงจะไปเก็บกระดูก บังเอิญปีนั้นฝนตกไม่หยุด เมื่อครบ ๓ วันแล้วก็ไปเก็บกระดูกไม่ได้เพราะฝนตกติดต่อกัน ๖ วันแล้วก็ไม่มีที่ท่าว่าจะหยุด ตอนนั้นเผาศพกับพื้นดินเพราะยังไม่มีเมรุ  พอคืนที่ ๗ ยายแสงเดือนมาเข้าฝันตาแสงเดือนผู้เป็นสามีว่า "ให้ไปเก็บกระดูกฉันเถอะมันหนาวจริงๆทนไม่ไหวแล้ว"

    ข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า "ทำไมคนตายไปแล้วจึงมีอาการหนาว  ปกติคนตายไปแล้วจะไม่มีความรู้สึกเกี่ยวกับร้อนหรือหนาว  น่าสงสัยจริงๆ  ช่วยกันคิดหน่อยว่ามันเป็นเพราะอะไรคนตายจึงบอกว่าหนาว"

   ๓.คนตายไปแล้วมาเข้าฝันบอกบอกญาติว่าเอากระดูกเข้าธาตุแล้วปิดธาตุแน่นเกินไปหายใจไม่ออก 

      นายทอน       คำแก้ว

  เลขที่ ๖  บ้านโคกสุวรรณ   ต.เมือง    อ.มุกดาหาร    จ.นครพนม

   ตายไปเมื่อเผาเสร็จแล้วลูกหลานญาติพี่น้องเก็บกระดูกเอากระดูกไปบรรจุไว้ในธาตุเจดีย์ลูกหลานเอากระดูกเข้าแล้วปิดธาตุแน่นไม่ให้อะไรเข้าไปรบกวน ตกตอนกลางคืนคนมาเข้าฝันบอกว่า "ปิดธาตุแน่นเกินไปหายใจไม่ออก ให้ไปเปิดให้มีช่องอากาศเข้าได้"

   ๔.ยายพันอยู่บ้านขอนแก่นเมื่อตายไปแล้วลูกหลานได้เก็บกระดูกเข้าใสธาตุเอาไว้ เมื่อเอากระดูกเข้าขวดโหลเอาเข้าธาตุแล้วก็ปิดธาตุอย่างดี วันหนึ่งเด็กนักเรียนพากันเล่นทอยพลาดไปถูกกระจกที่ปิดธาตุเอาไว้แตก ยายพันมาเข้าฝันลูกสาวว่า "พวกแก่เอากระดูกแม่เข้าธาตุไว้แล้วปิดแน่นเกินไปจนแม่ออกไปไหนไม่ได้แม่อยู่ในนั้นตั้งหลายหลายปี เด็กมันพากันเล่นทอยพลาดไปถูกทำให้กระจกแตกแม่ถึงออกมากินเข้าแจกไปไหนมาไหนได้"

   ๕.นายทนงค์ศักดิ์ (โอเล้)    พรมสานห์

 ๓๘  บ้านท่าดีหมี   หมู่ที่  ๔   ต.ปากตม   อ.เชียงคาน   จ.เลย

ถูกรถชนตาย  เมื่อวันที่  ๒๙   พฤษภาคม  พ.ศ.๒๕๒๖  เมื่อพ่อแม่ญาติพี่น้องเผาศพแล้วได้แบ่งกระดูกออกเป็น  ๒  ส่วน   ส่วนหนึ่งเอาไปไว้ที่วัด  อีกส่วนหนึ่งเอาใส่ขวดโหลแล้วลอยเรือเอาไปโยนลงที่กลางแม่น้ำโขงดังตุ๋ม เอาไปโยนได้ประมาณเดือนหนึ่ง คนตายมาเข้าฝันขอให้แม่เอากระดูกขึ้นมาเพราะแช่น้ำมันหนาวจริงๆ

  ข้าพเจ้าอยากให้ผู้อ่านทั้งหลายช่วยคิดว่า ทำไมคนตายไปแล้วจึงบอกว่าหนาว  ตามปกติคนตายไปแล้วจะไม่มีความรู้สึกในเรื่องเย็นและร้อน


Visitors: 139,923